กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-จากเหตุการณ์วัยรุ่น 4 คน รุมโทรมหญิงสาวและมอมยาด้วยยาเสพติดและยาเสียสาว ก่อนเหยื่อรายนี้จะเสียชีวิต พบว่ายาอันตรายที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ยังมีการลักลอบขายในตลาดมืดตามเว็บไซต์ และอาจรวมถึงร้านขายยาบางแห่ง ซึ่งผู้ซื้อ-ผู้ขาย และผู้ลักลอบนำเข้ายานี้ หากถูกจับกุมได้ จะมีความผิดและมีบทลงโทษหนัก
ข้อความบนเว็บไซต์ประกาศขายยานอนหลับและยาเสียสาวหลายรายการ บางเว็บไซต์มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้ขาย บางเว็บไซต์ขึ้นข้อความเปิดขาย 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะยาอัลปราโซแรม และไนเมตาซีแพม หรือยาแฮปปี้ไฟว์ ซึ่งมีการโฆษณาสรรพคุณใช้สำหรับมอมยาสาวได้ และเป็นยากลุ่มเดียวกันที่วัยรุ่น 4 คน ใช้ในการมอมเหยื่อสาวอายุ 19 ปี ไปข่มขืน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยใช้ยาประเภทนี้ร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่น ทั้งยาอีและยาเค จนเหยื่อเสียชีวิต
รักษาการรองเลขาธิการ อย.ให้ข้อมูลว่า ยาประเภทนี้ห้ามจำหน่ายตามร้านขายยา แต่ยังพบลักลอบจำหน่ายตามเว็บไซต์ ซึ่งอันตรายหากรับประทานโดยไม่มีใบสั่งแพทย์
ยาอัลปราโซแรมและไนเมตาซีแพม เป็นยาในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ใช้ในการรักษาอาการเครียด นอนไม่หลับ และบำบัดผู้ป่วยจิตเวช ในไทยได้มีการประกาศเลิกใช้ไปเกือบ 10 ปีแล้ว แต่ยังมีจ่ายให้ผู้ป่วยบางราย เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากพบจำหน่าย ซื้อขาย หรือนำเข้าถือเป็นความผิดโทษทั้งจำและปรับ
ข้อมูลจากกองควบคุมวัตถุเสพติด อย.ระบุว่า อาการหลังได้รับยากลุ่มนี้มักจะเกิดอาการเคลิ้มฝัน ไม่รู้สึกตัว ซึ่งอาจทำให้ผู้ไม่หวังดีก่อเหตุใช้คุณสมบัตินี้ของยาก่อเหตุกับเหยื่อ ซึ่งในไทยไม่มีการรับรองการขายยาเหล่านี้ แต่มักถูกลักลอบนำเข้าจากประเทศอื่น และมีการจับกุมได้บ่อยครั้ง ขณะที่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ก็พบการลักลอบใช้ยาผิดประเภทแทนยาเสพติดเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย