เตือนภัย สาวเสิร์ฟวูบ ถูกมอมยาเสียสาว

6 ก.พ. – เตือนภัยยาเสียสาว สาวเสิร์ฟวัย 24 ปี เล่านาทีชีวิต วูบหมดสติคาร้าน คาดถูกลูกค้ามอมยาขณะเอาเบียร์ให้ดื่ม หมอล้างท้องช่วยชีวิตไว้ได้ทัน


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ตอนไป ตอนกลับ # โดนลูกค้าเอายาใส่แก้วเบียร์ #บทเรียนมากๆ #เตือนภัยคนที่ทำงานกลางคืน” พร้อมกับได้โพสต์ภาพของตนเอง โดยเป็นภาพก่อนที่จะไปทำงาน และภาพของตนเองที่นอนหมดสติโดยมีเจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูกำลังให้การช่วยเหลือ”

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์เฟซบุ๊ก คือ น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เธอเล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ทำงานหารายได้พิเศษเป็นพนักงานส่งเสริมการขายเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ในวันเกิดเหตุ คืนวันที่ 3 ก.พ. ได้ไปทำงานส่งเสริมการขายที่ร้านอาหารเปิดใหม่ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทางร้านได้จัดมินิคอนเสิร์ต โปรโมทร้าน


ระหว่างที่ทำงานอยู่ ได้มีลูกค้าชายซึ่งมาด้วยกัน 3 คน นั่งดื่มกิน เธอได้เข้าไปเทคแคร์ ดูแลรินเครื่องดื่มให้ด้วย ต่อมา 1 ในลูกค้าได้ให้เธอไปเอาแก้วเปล่ามา 1 ใบ พร้อมกับรินเบียร์จนเต็มแก้วแล้วยื่นให้ดื่ม เธอดื่มได้ครึ่งแก้ว จากนั้นลูกค้าก็ให้ไปซื้อของที่บาร์หลายครั้ง รวมถึงเธอได้เดินไปดูแลลูกค้าโต๊ะอื่นด้วย ไม่นานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวก็เรียกเธอกลับมาชงเหล้าให้อีก พร้อมรินเบียร์ให้กิน กระทั่งแก้วสุดท้ายเริ่มมีอาการเวียนหัวอย่างผิดปกติ ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวก็ใช้ให้ไปซื้อของที่บาร์อีก ตอนนี้เธอถือแก้วไปด้วย แต่เมื่อถึงจุดที่มีแสงสว่าง สังเกตที่แก้วพบว่า มีตะกอนอยู่ก้นแก้ว จึงเรียกพี่ที่ไปทำงานด้วยมาดู ทำให้รู้ว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ เมื่อใช้ช้อนตักขึ้นมาดูพบว่า มีลักษณะเป็นเกล็ดคล้ายเม็ดยาที่ละลายไม่หมด แต่ดูได้สักพักก็เริ่มมีอาการเวียนหัวหนักขึ้น ร่างกายอ่อนแรง ยืนไม่ไหว แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็ว มือเท้าชา จึงให้เพื่อนโทรเรียกรถกู้ชีพให้มารับนำส่งโรงพยาบาล

น.ส.มาย เปิดเผยอีกว่า ในคืนดังกล่าว ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มจากโต๊ะอื่นเลย จึงได้เก็บตัวอย่างยาเพื่อส่งตรวจ และเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเกือบเอาชีวิตไม่รอด นับว่าโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตและล้างท้องได้ทัน ทั้งนี้มีลูกค้าภายในร้านซึ่งเห็นเหตุการณ์และได้เข้ามาดูเศษยาที่ตกตะกอนอยู่ก้นแก้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นยา “แฮปปี้ไฟว์”

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) เพื่อนของ น.ส.มาย เปิดเผยว่า คืนนั้นไปเป็นเพื่อนของ น.ส.มาย โดยได้นั่งรออยู่ภายในร้าน ต่อมา น.ส.มาย ได้มาตามตนให้ไปดูสิ่งของในแก้ว จากนั้น น.ส.มาย ก็มีอาการหน้ามืด อ่อนแรง ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งมูลนิธิให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการค้นหาข้อมูลยา “แฮปปี้ไฟว์” พบว่า เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นยานอนหลับที่ออกฤทธิ์เร็ว (ภายใน 15 – 30 นาที) ออกฤทธิ์ได้นาน เหมาะที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การมอมยา หรือนำไปใช้เสริมกับยาเสพติดอื่นๆ เช่น ใช้ “แฮปปี้ไฟว์” ภายหลังจากการเสพยาบ้า ยาไอซ์ เพื่อให้หลับ

อันตรายของ “แฮปปี้ไฟว์” ก็เหมือนกับยานอนหลับชนิดอื่นๆ คือ การเสพติดยานอนหลับ การกดประสาท และหากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็จะยิ่งเสริมฤทธิ์กดประสาทมากขึ้นไปอีก กระทั่งโคม่าและเสียชีวิตในที่สุด ประเทศไทย ไม่มีการรับรองให้ขาย ส่วนที่มีการขายและเสพกันนั้น ต้นตอมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปัจจุบันมีบทกำหนดโทษที่รุนแรงทั้งผู้เสพและผู้ค้า โดยหากเสพเองมีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจูงใจชักนำยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 – 200,000 บาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 […]

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]