เตือนภัย สาวเสิร์ฟวูบ ถูกมอมยาเสียสาว

6 ก.พ. – เตือนภัยยาเสียสาว สาวเสิร์ฟวัย 24 ปี เล่านาทีชีวิต วูบหมดสติคาร้าน คาดถูกลูกค้ามอมยาขณะเอาเบียร์ให้ดื่ม หมอล้างท้องช่วยชีวิตไว้ได้ทัน


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ตอนไป ตอนกลับ # โดนลูกค้าเอายาใส่แก้วเบียร์ #บทเรียนมากๆ #เตือนภัยคนที่ทำงานกลางคืน” พร้อมกับได้โพสต์ภาพของตนเอง โดยเป็นภาพก่อนที่จะไปทำงาน และภาพของตนเองที่นอนหมดสติโดยมีเจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูกำลังให้การช่วยเหลือ”

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์เฟซบุ๊ก คือ น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เธอเล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ทำงานหารายได้พิเศษเป็นพนักงานส่งเสริมการขายเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ในวันเกิดเหตุ คืนวันที่ 3 ก.พ. ได้ไปทำงานส่งเสริมการขายที่ร้านอาหารเปิดใหม่ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทางร้านได้จัดมินิคอนเสิร์ต โปรโมทร้าน


ระหว่างที่ทำงานอยู่ ได้มีลูกค้าชายซึ่งมาด้วยกัน 3 คน นั่งดื่มกิน เธอได้เข้าไปเทคแคร์ ดูแลรินเครื่องดื่มให้ด้วย ต่อมา 1 ในลูกค้าได้ให้เธอไปเอาแก้วเปล่ามา 1 ใบ พร้อมกับรินเบียร์จนเต็มแก้วแล้วยื่นให้ดื่ม เธอดื่มได้ครึ่งแก้ว จากนั้นลูกค้าก็ให้ไปซื้อของที่บาร์หลายครั้ง รวมถึงเธอได้เดินไปดูแลลูกค้าโต๊ะอื่นด้วย ไม่นานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวก็เรียกเธอกลับมาชงเหล้าให้อีก พร้อมรินเบียร์ให้กิน กระทั่งแก้วสุดท้ายเริ่มมีอาการเวียนหัวอย่างผิดปกติ ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวก็ใช้ให้ไปซื้อของที่บาร์อีก ตอนนี้เธอถือแก้วไปด้วย แต่เมื่อถึงจุดที่มีแสงสว่าง สังเกตที่แก้วพบว่า มีตะกอนอยู่ก้นแก้ว จึงเรียกพี่ที่ไปทำงานด้วยมาดู ทำให้รู้ว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ เมื่อใช้ช้อนตักขึ้นมาดูพบว่า มีลักษณะเป็นเกล็ดคล้ายเม็ดยาที่ละลายไม่หมด แต่ดูได้สักพักก็เริ่มมีอาการเวียนหัวหนักขึ้น ร่างกายอ่อนแรง ยืนไม่ไหว แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็ว มือเท้าชา จึงให้เพื่อนโทรเรียกรถกู้ชีพให้มารับนำส่งโรงพยาบาล

น.ส.มาย เปิดเผยอีกว่า ในคืนดังกล่าว ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มจากโต๊ะอื่นเลย จึงได้เก็บตัวอย่างยาเพื่อส่งตรวจ และเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเกือบเอาชีวิตไม่รอด นับว่าโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตและล้างท้องได้ทัน ทั้งนี้มีลูกค้าภายในร้านซึ่งเห็นเหตุการณ์และได้เข้ามาดูเศษยาที่ตกตะกอนอยู่ก้นแก้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นยา “แฮปปี้ไฟว์”

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) เพื่อนของ น.ส.มาย เปิดเผยว่า คืนนั้นไปเป็นเพื่อนของ น.ส.มาย โดยได้นั่งรออยู่ภายในร้าน ต่อมา น.ส.มาย ได้มาตามตนให้ไปดูสิ่งของในแก้ว จากนั้น น.ส.มาย ก็มีอาการหน้ามืด อ่อนแรง ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งมูลนิธิให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการค้นหาข้อมูลยา “แฮปปี้ไฟว์” พบว่า เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นยานอนหลับที่ออกฤทธิ์เร็ว (ภายใน 15 – 30 นาที) ออกฤทธิ์ได้นาน เหมาะที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การมอมยา หรือนำไปใช้เสริมกับยาเสพติดอื่นๆ เช่น ใช้ “แฮปปี้ไฟว์” ภายหลังจากการเสพยาบ้า ยาไอซ์ เพื่อให้หลับ

อันตรายของ “แฮปปี้ไฟว์” ก็เหมือนกับยานอนหลับชนิดอื่นๆ คือ การเสพติดยานอนหลับ การกดประสาท และหากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็จะยิ่งเสริมฤทธิ์กดประสาทมากขึ้นไปอีก กระทั่งโคม่าและเสียชีวิตในที่สุด ประเทศไทย ไม่มีการรับรองให้ขาย ส่วนที่มีการขายและเสพกันนั้น ต้นตอมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปัจจุบันมีบทกำหนดโทษที่รุนแรงทั้งผู้เสพและผู้ค้า โดยหากเสพเองมีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจูงใจชักนำยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 – 200,000 บาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน