กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่ง รฟท.ปรับแผนจราจรรอบสถานีกลางบางซื่อก่อนเปิดบริการปี 64 หวั่นวิกฤติรถติด ขีดเส้น 90 วันแล้วเสร็จ ขณะที่ รฟท.ระบุแผนดึงเอกชนลงทุนในพื้นที่โดยรอบสถานีกลางฯ อยู่ระหว่างปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อติดตามแผนงานโครงการสถานีกลางบางซื่อ ขอบเขตการก่อสร้าง รวมถึงสถาพของการจราจรโดยรอบบนถนนของพื้นที่ก่อสร้าง เส้นทางเข้า-ออก ที่ส่งผลต่อการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่มีปัญหาการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะพื้นที่ทางด่วน ซึ่งได้รับการร้องเรียนจำนวนมาก เบื้องต้นทราบว่า สถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการต้นปี 2564 หรือเป็นระยะเวลา 18 เดือนนับจากนี้ จึงต้องการทราบว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแผนจัดการจราจรอย่างไรบ้างก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งได้มอบหมายให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาแผนการแก้ปัญหาจราจรและการระบายปริมาณรถให้เสร็จภายใน 90 วัน
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องของถนนที่จะระบายปริมาณจราจรออกจากถนนบางซื่อ ไปสู่ถนนเทอดดำริ ถนนวิภาวดี เนื่องจากถนนโดยรอบโครงการมีขนาด 2 ช่องจราจรระบายรถได้น้อย ดั้งนั้น จึงมอบหมายให้ รฟท. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) หาแนวทางระบายปริมาณรถสู่ทางด่วนให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากประมาณการณ์คาดว่าปี 2565 จะมีผู้โดยสารนำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้บริการสถานีกลางบางซื่อจำนวนมากและผู้โดยสารมาใช้บริการ 650,000คนต่อวัน ทำให้การจราจรแออัด จึงต้องมีการเตรียมแผนรองรับไว้ล่วงหน้า
ขณะที่นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อว่า ในส่วนของการลงทุนเชิงพาณิชย์ภายในพื้นที่สถานีในส่วนนี้ การรถไฟฯ มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนสัญจรอย่างคึกคักในแต่ละวัน ส่วนพื้นที่โดยรอบค่อนข้างเป็นพื้นที่ใหญ่และมีกิจกรรมแต่ละวันน้อย การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการปรับทีโออาร์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย