นนทบุรี 2 ส.ค.-พ่อแม่ของเด็กชายวัย 15 ปี เข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข สั่งปิดโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย จากกรณีปฏิเสธการรักษาลูกซึ่งประสบอุบัติเหตุอาการสาหัส โดยให้ต้องวางเงิน 100,000 บาท จนผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลรัฐ
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนางสังเวียน ดิษวิเศษ อายุ 40 ปี และนายไกรวิทย์ ดิษวิเศษ อายุ 40 ปี ชาว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมีนางนิสิตา รอบุญ หัวหน้ากลุ่มงานประสานการเมือง สำนักงานรัฐมนตรี เข้ารับเรื่องร้องเรียนแทนรัฐมนตรี โดยขอให้กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งปิดโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี และดำเนินคดีตามกฎหมายแก่โรงพยาบาลดังกล่าวทั้งทางอาญาและทางปกครอง สืบเนื่องมาจากที่ปฏิเสธการรักษานายกนกพล ดิษวิเศษ อายุ 15 ปี บุตรชายที่ประสบอุบัติเหตุสาหัส โดยโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวแจ้งว่าเป็นกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน ต้องวางเงิน 100,000 บาท ทั้งที่อาการวิกฤติ จนผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลของรัฐ
นางสังเวียน ดิษวิเศษ อายุ 40 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อยากให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยเร่งตรวจสอบโรงพยาบาลดังกล่าว และอยากให้โรงพยาบาลช่วยชี้แจงถึงเรื่องราวทั้งหมด ว่าทำไมถึงปฏิเสธที่จะรักษา เพียงเพราะไม่มีเงินสด 100,000 บาทติดตัว ทั้งที่ยืนยันจะรักษา โดยมีประกันชีวิต และ พ.ร.บ.คุ้มครอง แต่โรงพยาบาลได้ปฏิเสธ และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ และลูกชายเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยก่อนหน้านี้เมือวันที่ 25 มิถุนายน ได้เข้าพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว แต่โรงพยาบาลมีการบ่ายเบี่ยง และไม่มีการชี้แจงถึงเรื่องราวทั้งหมดแต่อย่างใด เพียงบอกแค่ว่าวันนั้นไม่มีแพทย์เฉพาะทางทางด้านสมอง และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือการเยียวยาจากโรงพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนนายไกรวิทย์ ดิษวิเศษ อายุ 40 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทั้งโรงพยาบาลและแพทย์
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า อยากให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งปิดโรงพยาบาลดังกล่าว และตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการปฏิเสธการรักษาฉุกเฉิน และหากพบว่ามีความผิดเกิดขึ้น ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายแก่โรงพยาบาลทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และปกครอง เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ปฏิเสธการรักษาเพราะผู้ป่วยไม่มีเงินมาวางค่ารักษาพยาบาล.-สำนักข่าวไทย