ขนส่งฯ คุมเข้มรถบรรทุกต้องใช้ทวิสล็อกตู้สินค้า

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมการขนส่งทางบกคุมเข้มรถบรรทุกสินค้าปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เผยผลตรวจสอบการใช้ทวิสล็อกตู้คอนเทนเนอร์ทั่วประเทศ พบฝ่าฝืนไม่ล็อกตู้ 130 ราย อุปกรณ์ชำรุด 72 ราย สั่งดำเนินการตามกฎหมายทุกราย



นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกเพิ่มความเข้มข้นมาตรการควบคุม กำกับ ดูแล ผู้ประกอบการขนส่งและผู้ประจำรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการบรรทุกสินค้า การควบคุมน้ำหนักบรรทุกให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และการใช้อุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า (Twist-Lock) เพื่อยึดตู้คอนเทนเนอร์กับตัวรถให้มั่นคงปลอดภัย


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม 2562 จำนวน 13,172 คัน พบรถกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 202 คัน เป็นความผิดตามมาตรา 102 (4) ฐานไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 (ไม่ล็อกตู้คอนเทนเนอร์) 130 คัน ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท และมาตรา 71 ฐานนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้งานบนท้องถนน (Twist-Lock ชำรุด) 72 คัน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย 

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 เป็นต้นไป รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จดทะเบียนใหม่ทุกคันต้องติดตั้ง Twist-Lock ให้มั่นคงแข็งแรงกับตัวรถและสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้โดยไม่เกิดความเสียหายตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ สมรรถนะ และการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้าและการให้ความเห็นชอบอุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า สำหรับรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ พ.ศ. 2561 ติดตั้งไม่น้อยกว่า 4 จุด ต่อ 1 ตู้บรรทุกสินค้า และต้องอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้การกระจายน้ำหนักบรรทุกมีความเหมาะสม นอกจากนี้ ต้องติดแผ่นสะท้อนแสงสีเหลือง/ขาว และสีแดงที่ตัวอุปกรณ์ เมื่อ Twist-Lock อยู่ในตำแหน่งการล็อกต้องปรากฏสัญลักษณ์สีเหลืองหรือสีขาวตามแนวยาวของตัวรถ หาก Twist-Lock อยู่ในตำแหน่งไม่ล็อกจะปรากฏสัญลักษณ์สีแดงตามแนวยาวของตัวรถอย่างชัดเจน เพื่อเป็นจุดสังเกตให้ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมทางมองเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ต้องติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนในเวลากลางคืนไม่น้อยกว่า 150 เมตร 

ทั้งนี้ หากเป็นรถบรรทุกที่มีจำนวนเพลาล้อ กงล้อ และยาง ตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้นขึ้นไป (ยกเว้นรถลากจูง) ต้องติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงควบคู่กับอุปกรณ์สะท้อนแสงด้วย โดยแผ่นสะท้อนแสงต้องมีความกว้างอย่างน้อย 0.50 – 0.60 เซนติเมตร ติดตั้งสูงจากพื้นอย่างน้อย 25 – 150 เซนติเมตร ด้านท้ายรถต้องติดตั้งเป็นแนวยาวรอบขอบทุกด้านโดยใช้แผ่นสะท้อนแสงสีแดงหรือสีเหลือง ส่วนด้านข้างติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงสีขาวหรือสีเหลืองเป็นแนวยาวเฉพาะขอบด้านล่าง และติดตั้งเพิ่มเฉพาะมุมด้านบนเพื่อแสดงระยะความสูงของรถ หรืออาจติดตั้งเป็นแนวยาวรอบขอบทุกด้านได้เช่นเดียวกัน รถที่ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงแล้วแต่ใช้วัสดุหรือมีสีไม่เป็นไปตามกำหนดต้องแก้ไขให้ให้ถูกต้องภายในปี 2562 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง