เหยื่อแชร์ลูกโซ่อัตราแลกเปลี่ยน ร้องดีเอสไอ

ดีเอสไอ 10 ก.ค.-ผู้เสียหาย แชร์ลูกโซ่สียหายพันล้าน ร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษระบุถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าตอบแทนสูงกว่า 2 พันคน บางรายสูญเงิน 10 ล้าน ส.ส.พปชร.อาสาแก้กฎหมายล้อมคอกแชร์ลูกโซ่ไทย


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายภูดิท อินสุวรรณ ส.ส.พิจิตร นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำตัวแทนผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่เก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ หรือแชร์ฟอเร็กซ์ คาดวงเงินความเสียหายไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท 


นายสามารถ กล่าวว่า แชร์ฟอเร็กซ์ไปเปิดบูธภายในงาน Money Expo แต่เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศแจ้งเตือนบูธแชร์ฟอเร็กซ์จึงปิดตัวลง แต่ยังนำภาพถ่ายภายในงาน ไปสร้างความน่าเชื่อถือหลอกหลวงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแชร์ฟอเร็กซ์จะระดมทุนขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,850 บาท จะได้เงินปันผล 40 บาทต่อวัน หากลงทุน 150,000 บาทจะได้ปันผล 1,200 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุด และพบว่ามีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนสูงสุด 10 ล้านบาท 


นอกจากนี้ยังมีการรับประกันรายได้ เป็นค่าแนะนำหรือชักชวนสมาชิกใหม่ 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดลงทุน หากรายใดสามารถชักชวนสมาชิกใหม่ได้ตามเป้าที่กำหนด จะได้เงินปันผลเพิ่มขึ้นอีก 6 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีการนำภาพดาราฮ่องกงมาตัดต่อใส่โลโก้บริษัทเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ร่วมลงทุน ทำให้มีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนมากกว่า 2,400 คน คดีแชร์ฟอเร็กซ์จึงเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากและยังเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะมีชาวต่างชาติเป็นผุ้ร่วมขบวนการรวมทั้งมีการโอนเงินผ่านบิทคอยน์ ไปยังต่างประเทศด้วย

ด้านนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายหลังรับเรื่องดีเอสไอจะบันทึกปากคำ และประมวลข้อเท็จจริงส่งให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อเริ่มต้นการสอบสวนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากคดีนี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษเพราะว่ามีผู้เสียหายมากกว่าพันคน มีความเสียหายเบื้องต้นกว่าพันล้านบาท และเข้าข่ายความผิดพระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีความเสียหายกระทบต่อเศรษฐกิจ และสังคม โดยดีเอสไอจะเน้นแกะรอยเส้นทางการเงินเพื่อยึดอายัดทรัพย์ที่ได้ไปจากการฉ้อโกงประชาชน

นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ปัญหาการหลอกลวงประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศที่ส.ส.ให้ความห่วงใย ต้องการให้ภาครัฐมีการป้องกันและออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหา โดยจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในสภาเพื่อดำเนินการออกกฎหมาย หรือแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหยุดยั้งขบวนการหลอกลวงประชาชน โดยจะเร่งผลักดันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการรอเข้ายื่นหนังสือ มีผู้เสียหายในคดีดังกล่าวมีอาการหน้ามืดเป็นลม จนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง