5 ก.ค. – “พร้อมพงศ์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบการฮั้วประมูลระบบคลาวด์กระทรวงสาธารณสุข 1 พันล้านบาท ชี้มีชื่อกรรมการทับซ้อนกันหลายบริษัท
ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นเรื่องให้ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี DSI และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ/โฆษกกรม DSI ให้ตรวจสอบ 2 เรื่อง เป็นเรื่องของความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และความผิดตาม ม.157 มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
ดร.พร้อมพงศ์ ระบุว่า เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีประชาชนนำหลักฐาน เรื่องการฮั้วประมูลมาให้ จึงมายื่นเรื่องให้ DSI ตรวจสอบ เริ่มมาจากกระทรวงสาธารณสุขจัดทำระบบคลาวด์กลาง ด้วยงบฯ 1,000 ล้านบาท และได้มอบหมายให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เป็นผู้ดำเนินการจัดหา จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท NT ใช้วิธีการเชิญชวนเฉพาะ แทนวิธีการประกวดราคา (e-bidding) และได้เชิญบริษัทเข้ามาเสนอราคาเพียง 7 บริษัท
จากการตรวจสอบพบว่า มีชื่อกรรมการทับซ้อนหลายบริษัท และยังพบว่าการเสนอราคากลางเพียง 2 บริษัท อีก 5 บริษัทถอนตัวออกไป โดยบริษัทที่ชนะการประมูลเสนอราคาที่ 991 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่แพ้เสนอราคา 992 ล้านบาท ห่างกันเพียง 0.16% ซึ่งการเสนอราคาต่ำกว่า 1% เข้าข่าย ชอบโกงและทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง เรื่องนี้ผู้บริหาร NT ต้องถูกตรวจสอบ ซึ่งผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล การสมยอมการเสนอราคา 2542
ส่วนเรื่องที่ 2.บริษัท NT ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง จะเห็นได้ตามข่าวหลายๆ สื่อที่นำเสนอ พบมีการรวบแก๊งตัดสายเคเบิลในหลายพื้นที่ ซึ่งสายเคเบิลนี้เป็นของ บริษัท NT ที่ไม่ใช้แล้ว ซึ่งคนที่ขโมยไปก็เอาไปเผาเอาทองแดงข้างในไปขาย มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท ซึ่งผู้บริหารของ NT ควรจะขุดสายเคเบิลนั้นขึ้นมาดำเนินการขาย แล้วเอาเงินเข้ารัฐ ถือมีความผิดตาม ม.157 ในสัปดาห์หน้าตนจะเอา 2 เรื่องนี้ไปยื่นให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ถ้าเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐจะมีการไปต้องยื่นหนังสือกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป ทั้งนี้ ยังฝากถึงประชาชน หากใครมีเอกสารที่คิดว่ามีความผิดด้านการทุจริต ให้มายื่นที่ตนได้เลย และตนจะตามคดีนี้ให้เรื่องไม่เงียบ
ทางด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ระบุว่าได้รับเรื่องเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปจะให้ทางกองคดีฮั้วประมูลเป็นผู้ดำเนินการ และจะรีบเร่งรัดหาข้อเท็จจริงในเรื่องร้องเรียนให้เร็วที่สุด. -420- สำนักข่าวไทย