ก.สาธารณสุข 25 ก.ค. – สธ.ติดตามสถานการณ์ปะทะชายแดน สั่งการ 9 ข้อเน้นย้ำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้อพยพ โดยมีผู้ได้รับผลกระทบ 44 ราย เสียชีวิต 13 ราย อพยพผู้ป่วยในแล้ว 429 ราย และพลเรือน 83,170 ราย
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหลังการประชุมได้เปิดเผยว่า ในวันนี้มีหลายเรื่องที่ประชุมกัน หลักๆ เป็นข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นย้ำเรื่องของข้อปฏิบัติทั้งหมด 9 ข้อ ตั้งแต่การตั้งศูนย์, การประเมินสถานการณ์, การวางระบบ, การส่งต่อผู้ป่วย, การเตรียมความพร้อม, การสำรองเวชภัณฑ์, การสำรองเลือด, การประสานงานกับพื้นที่ รวมไปถึงการดูแลเฝ้าระวังโรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกิดทางกายหรือทางจิตใจ
รายงานผู้ได้รับผลกระทบล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. มีประชาชนได้รับผลกระทบทั้งสิ้นรวม 44 ราย เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บสาหัส 6 ราย บาดเจ็บปานกลาง เคสสีเหลือง 14 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย เคสสีเขียว 11 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ จังหวัดศรีสะเกษ รองลงมาคือ จังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี

ส่วนการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในที่อยู่ในโรงพยาบาลใกล้เขตชายแดนใกล้พื้นที่เสี่ยง รวมทั้งสิ้น 429 ราย ในจำนวนนี้จังหวัดสุรินทร์มากที่สุด รองมาคือ จังหวัดศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี การอพยพพลเรือน ทั้ง 4 จังหวัด รวม 83,170 ราย ในจำนวนนี้ได้อพยพเข้าไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัด รวมแล้วกว่า 58,000 ราย
จากข้อมูลสถานบริการที่ได้รับผลกระทบมี 11 แห่ง ใน 4 จังหวัด ปิดบริการทั้งหมด 7 แห่ง และปิดบางส่วน ให้บริการเฉพาะเคสฉุกเฉิน 4 แห่ง
ส่วนคนไข้ที่มีโรคประจำตัวสามารถใช้สิทธิบัตรทอง รับยาได้อย่างต่อเนื่อง เพราะโดยปกติแล้วจะรับได้แค่ 7 วัน แต่เนื่องในสถานการณ์แบบนี้สามารถขยายเวลาในการรับยาได้.-420-สำนักข่าวไทย
