กรมรางตั้งเป้าสางปัญหาค่ารถไฟฟ้าแพงใน 3 เดือน

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – กรมรางมาแล้ว!!! กร้าวภายใน 3 เดือน เคาะเพดานค่าโดยสารสูงสุด โครงข่ายรถไฟฟ้า 11 สาย กว่า 500 กม.ให้จบ เพื่อสางปัญหาค่ารถไฟฟ้าแพง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) มีการทดสอบการใช้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จากสถานีหมอชิตถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว และมีการพูดถึงประเด็นค่าโดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามการประกาศใช้ ม.44 ให้ กทม.เจรจากับบีทีเอส เพื่อสรุปเงื่อนไขการเดินรถต่าง ๆ รวมถึงประเด็นค่าโดยสาร ซึ่ง กทม.พยายามเจรจา ให้บีทีเอส เก็บค่าโดยสารสูงสุดจนถึงสถานีคูคตไม่เกิน 65 บาท แต่ล่าสุดผู้บริหารบีทีเอส ระบุว่าเป็นเงื่อนไขที่ทำได้ยาก และที่ผ่านมามีประเด็นปัญหาเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง ซึ่งผู้ใช้รถไฟฟ้าออกมาเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางรางที่จัดตั้งขึ้นใหม่เข้ามาสางปัญหา เนื่องจากในอนาคตจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าเปิดให้บริการต่อเนื่องทยอยตั้งแต่ปีนี้

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากรมฯ เสนอความเห็นให้กระทรวงคมนาคมจัดตั้งคณะกรรมการกำกับค่าโดยสารระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าไปแล้ว เพื่อศึกษาและกำหนดรายละเอียดเพดานราคาสูงสุดของโครงข่ายรถไฟฟ้าที่จะจัดเก็บจากผู้โดยสาร สำหรับโครงข่ายรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลกำลังจะเกิดขึ้น 11 สาย มีระยะทางรวมกว่า 500 กม. 


สำหรับคณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงคมนาคม กรมราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้แทนกระทรวงการคลัง ทั้งจากกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะต้องอยู่ในการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ เพื่อพิจารณารายละเอียดของโครงสร้างของคณะกรรมการชุดนี้ด้วย

“ยืนยันว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะไม่ล่าช้า โดยในส่วนของกรมรางตั้งเป้าหมายเรื่องอัตราค่าโดยสารสูงสุดของโครงข่ายรถไฟฟ้ากว่า 500 กิโลเมตรนี้ ต้องมีความชัดเจนภายใน 3 เดือน ส่วนราคาเพดานสูงสุดจะเป็นเท่าไหร่นั้น ต้องรอให้คณะกรรมการชุดนี้เริ่มต้นทำงาน โดยยืนยันอีกครั้งว่าการทำงานจะต้องไม่ล่าช้า เพราะขณะนี้โครงข่ายรถไฟฟ้ากำลังทยอยเปิดแล้ว ควรมีความชัดเจนในประเด็นเหล่านี้โดยเร็ว” นายสราวุธ กล่าว

อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวด้วยว่า การทำงานของคณะกรรมการกำกับค่าโดยสารจะทำงานลงลึกรายละเอียด หากมีการกำกับราคาค่าโดยสารสูงสุดทั้งโครงข่าย และจำเป็นต้องให้ภาครัฐเข้ามาจัดสรรงบประมาณชดเชยให้ราคาไม่สูงเกินไป ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้บริการได้นั้น ที่มาของงบประมาณจะมาจากไหน จากการจัดตั้งกองทุนฯ หรือภาษีท้องถิ่นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ต้องมีความชัดเจนด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง