ภูมิภาค 17 ส.ค.-จ.เพชรบุรี มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ส่วนที่ อ.เวียงสา จ.น่าน น้ำท่วมบ้านกว่า 3,000 หลัง ด้าน ปภ.ประสานทุกหน่วยงานรับมือฝนตกหนัก และช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน จ.แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา
เมื่อ 18.00 น. วานนี้ (16 ส.ค.) เกิดพายุฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.สำมะโรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชน และทรัพย์สินพังเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านของนางกัญญาณี เงินใย อายุ 47 ปี หลังคาบ้านและฝ้าเพดานพังถล่มลงมาทับข้าวของเครื่องใช้และทรัพย์สินภายในบ้าน ขณะที่เข้าไปดูลูกชาย โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทั้งแม่และลูก
นอกจากนี้แรงลมยังทำให้ศาลพระภูมิเจ้าที่ของชาวบ้านหักโค่นล้มระเนระนาด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาสำรวจความเสียหาย เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ พร้อมทั้งช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย
ที่ จ.น่าน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเวียงสา อ.เวียงสา ระดมกำลังตักทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปกั้นน้ำบริเวณแนวแม่น้ำน่าน รับมือกับมวลน้ำที่จะไหลมาจากทางอำเภอเมือง ที่แม้ว่าเทศบาลตำบลเวียงสาจะนำดินมาถมสูงถึง 2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้ามาในเขตเทศบาล ซึ่งเป็นตลาดและร้านค้าต่างๆ แล้ว แต่ก็มีทีท่าว่าจะกั้นไว้ไม่อยู่ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำได้ไหลเข้าท่วม 7 ตำบลของอำเภอเวียงสา ได้แก่ ตำบลตาลชุม, กลางเวียง, น้ำมวบ, ส้านนาหนองใหม่, ไหล่น่าน และส้าน กว่า 3,000 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร-1 เมตร และบางพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านติดริมน้ำ ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตรครึ่ง ชาวบ้านต้องเก็บของขึ้นชั้นสอง และใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางเข้าออก
ส่วนพื้นที่ อ.ท่าวังผา ระดับน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ และเขต อ.เมือง น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย โดยระดับน้ำในแม่น้ำน่านลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงชุมชนริมน้ำที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทหารได้นำรถบรรทุกมาบริการช่วยเหลือประชาชนที่เดินทางออกมาซื้ออาหารและน้ำดื่ม
ขณะที่ จ.น่าน โดยนายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และนางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ นายกเหล่ากาชาดน่าน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และภาคเอกชนนำน้ำดื่ม อาหาร เทียน และยาป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนประชาชนที่ไม่ถูกน้ำท่วมก็ได้นำน้ำดื่มและอาหารมาบริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา โดย 2 จังหวัด ที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) คือ แม่ฮ่องสอน และน่าน.-สำนักข่าวไทย