แฟนคลับศิลปินป่วนสนามบินมีสิทธิ์ติดคุก

กรุงเทพฯ 29 มิ.ย.- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหามาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่มแฟนคลับที่มารับ -ส่งศิลปินเกาหลี ก่อความวุ่นวายหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญผู้โดยสาร ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน


น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์กลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลีสร้างความวุ่นวายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา   กลุ่มดังกล่าวได้มารอรับศิลปินเกาหลีที่บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน แถว A และ B ห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยส่งเสียงดังและวิ่งกรูตามศิลปิน ทำให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการไม่สามารถทำการเช็กอินได้ และมีแฟนคลับบางคนพยายามฝ่าฝืนเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม

รวมทั้งมีคลิปภาพแฟนคลับปีนขึ้นไปยืนบนรถเข็นกระเป๋าและเกาะผนังกระจก บริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดมาตรการการรักษาความปลอดภัยของ ทสภ. และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดี


ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มาประชุมร่วมกัน เพื่อหามาตรการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว 

เบื้องต้นจะเพิ่มความเข้มงวด ควบคุมไม่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวมาก่อความวุ่นวายได้อีก หากทราบว่ากลุ่มศิลปินเกาหลีจะมีกำหนดเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการควบคุมให้กลุ่มแฟนคลับนั่งรอรับศิลปินในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น และห้ามส่งเสียงดัง หรือกีดขวางทางเดินผู้โดยสาร หากไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่จะตักเตือนและเชิญออกนอกพื้นที่ และหากยังมีการฝ่าฝืนกระทำอีก เจ้าหน้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เอาผิดกับผู้ก่อเหตุในข้อหากระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ ให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ หรือความผิดฐานบุกรุกโดยกระทำการรบกวนการครอบครองพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของ ทอท. ซึ่งจะมีโทษปรับหรือจำคุกได้ 

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร หรือบริเวณชานชาลา และถนนด้านหน้าอาคารผู้โดยสารทั้งหมดถือเป็นพื้นที่ควบคุม ซึ่ง ทสภ. มีอำนาจบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามข้อกำหนด ทอท. ว่าด้วยการดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย ณ ทสภ. พ.ศ.2553 


นอกจากนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการรองรับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งจะมีการออกกฎระเบียบและจัดทำมาตรการเพื่อดำเนินการกับกลุ่มแฟนคลับที่เข้ามาในพื้นที่เพื่อกระทำการใดๆ ที่ไม่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้โดยสาร หรือผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ต้องขออภัยในความไม่สะดวกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขอยืนยันว่าได้ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยต่อไป หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือประสบเหตุด่วน เหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ. โทรศัพท์ 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส