สระแก้ว 5 พ.ค.-เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวสาวติดโควิดที่รักษาหายแล้ว จาก รพ.สนาม อบจ.สระแก้ว ไปที่เรือนจำ จ.สระแก้ว หลังศาลพิพากษาจำคุก ข้อหาหลบหนีไม่เข้ารักษาและใช้บัตรประชาชนผู้อื่นสวมสิทธิตรวจโควิด
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดสระแก้ว เดินทางมาควบคุมตัว น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี ที่โรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว หลัวหายจากอาการการติดเชื้อโควิด-19 ไปควบคุมตัวต่อไว้ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว ภายหลังศาลจังหวัดสระแก้วมีคำพิพากษาในคดีที่นางกมลวรรณ สุ่มมณี อายุ 46 ปี และ น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี สองแม่ลูก หลบหนีจากห้องเช่า ใน ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ไม่ยอมเข้ารับการรักษา ภายหลังทราบผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา และหนีไปอยู่บ้านญาติที่ จ.สมุทรปราการ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่ติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ 2 แม่ลูกถูกเจ้าหน้าที่คณะกรรมการโรคติดต่อปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ในข้อกล่าวหาจงใจฝ่าฝืนและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดย น.ส.กมลชนก มีหมายจับคดีฉ้อโกงค้างเก่าเดิมและถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ฐานแอบอ้างชื่อและใช้บัตรประชาชนของคนอื่น ที่ทำบัตรประชาชนหาย ไปตรวจหาเชื้อแทนเพื่อปกปิดข้อมูลตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศรีพัฒนสิทธิกร ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว กล่าวว่า คดีนี้ศาลสั่งจำคุก น.ส.กมลวรรณ สุ่มมณี ผู้เป็นแม่ฐานหลบหนี มีโทษจำคุกให้รอลงอาญาและปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ส่วน น.ส.กมลชนก วิชาฉิม ลูกสาว ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากมีการทำผิดกรณีนำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้อื่นมาใช้ และการตัดสินโทษครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่คิดจะปกปิดข้อมูลหรือหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา และน่าจะเป็นคดีแรกที่ศาลสั่งลงโทษจำคุกผู้หลบหนี ไม่เข้ารับการรักษาโรคโควิดอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย