กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.-“สุทิน” แจงยื่นเอาผิดมาตรา 157 ไม่มีเจตนาข่มขู่ “ชวน” ขอให้เห็นใจ ชี้เป็นช่องทางตามกระบวนการยุติธรรมที่จะหาทางออก เผยจะหยุดแจ้งความจนกว่าจะชัดเจนว่าญัตติได้รับการบรรจุหรือไม่
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ระบุญัตติการขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาความถูกต้องและติงฝ่ายค้านไม่ควรใช้วิธีข่มขู่ กดดัน ว่า ตนและฝ่ายค้านไม่ได้มีเจตนาจะข่มขู่นายชวน เพราะรู้ดีว่านายชวนเป็นผู้ใหญ่ที่ควรให้ความเคารพ ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้นายชวนมองว่าสิ่งที่ดำเนินการเป็นการข่มขู่
ส่วนการเตรียมยื่นเอาผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง อยู่ในความสนใจของประชาชน และผู้เกี่ยวข้องจะปฏิเสธในการทำเรื่องดังกล่าวให้เกิดความชัดเจนไม่ได้ พวกตนในฐานะตัวแทนประชาชนจึงได้พยายามหาช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลเรื่องนี้ โดยที่ผ่านมาได้พยายามดำเนินการทุกช่องทางแล้วแต่ไม่เป็นผล จึงหวังพึ่งกลไกรัฐสภา
“เรายื่นญัตติเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2562 ตามข้อบังคับสภาฯ กำหนดว่าอยู่ในดุลยพินิจของประธานสภาฯ ซึ่งประธานต้องแจ้งผลการพิจารณาว่าเป็นญัตติด่วนหรือไม่ภายใน 5 วัน และแจ้งการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระหรือไม่ภายใน 7 วัน พวกเราก็รอฟังผลการพิจารณาด้วยความสงบ ให้เกียรติท่านเป็นอย่างดี แต่เมื่อล่วงเลยเข้าวันที่ 9 ก็ยังไม่ได้รับการประสานแจ้งผลใด ๆ แต่ได้รับทราบจากสื่อว่านายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ บอกว่าไม่สามารถบรรจุได้ เพราะสภาฯ ไม่สามารถตรวจสอบ คสช. พวกเราก็มาหารือใน 7 พรรคฝ่ายค้านว่าพวกเราไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางสุดท้ายที่เหลือของพวกเราคือขอพึ่งกลไกกระบวนยุติธรรม คือ ตำรวจ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีความจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนดังกล่าวโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบกับตัวท่านประธานและรองประธานในฐานะผู้ตัดสินใจเรื่องนี้ พวกเราคาดว่าผลการวินิจฉัยที่จะเกิดคือคำตอบที่จะเป็นข้อยุติ” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส.ส.ฝ่ายค้านจำเป็นที่จะต้องแสวงหาช่องทางหาคำตอบให้กับประชาชน จึงขอให้นายชวนเห็นใจด้วย และเมื่อนายชวน ระบุว่าเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ส.ส.พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมจะรอฟัง และจะดำเนินการใด ๆต่อไป จะเป็นหลังการทราบข้อยุติแล้ว.-สำนักข่าวไทย