ทอท.เปิดตัวแอพฯ เช็คข้อมูลออนไลน์ ส.ค.นี้

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – ทอท.เผยสิงหาคมนี้ เปิด Digital Platform ให้ผู้โดยสารเช็คข้อมูลออนไลน์ สถานะไฟลท์บิน และข้อมูลบริการในสนามบิน ของ ทอท. 6 แห่งบนมือถือ ทั้งจุดบริการ แผนที่อัจฉริยะ  บริการจองที่จอดรถ  จนถึงแนะนำการจราจรเข้าสนามบินเลี่ยงเส้นทางติดขัด


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ  ทอท. เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคมนี้ ทอท.เตรียมเปิดตัวนวัตกรรมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม” ระบบสื่อสารออนไลน์ผ่าน  AOT แอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนและแท็บเลต เพื่อยกระดับคุณภาพบริการให้ผู้โดยสาร ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ 

ทั้งนี้ ผู้โดยสารจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลตรวจสอบสถานะเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ โดยจะมีการแนะนำเคาน์เตอร์เช็คอินและสัมภาระพร้อมแจ้งเตือนเที่ยวบินที่กำหนดไว้ เพื่อการเตรียมตัวเดินทาง บริการแผนที่อัจฉริยะเพื่อนำทางในอาคารผู้โดยสารไปยังจุดต่าง ๆ แจ้งเตือนสภาพการจราจรและทางเลี่ยงไปยังสนามบินเพื่อช่วยการเดินทางหลีกเลี่ยงปัญหาจราจร  และบริการจองที่จอดรถพิเศษ การจองและเรียกรถสาธารณะ รวมถึงจองห้องรับรองพิเศษ 


นายนิตินัย กล่าวว่า การให้บริการแอพพลิเคชั่นดังกล่าวถือเป็นเฟสที่ 1 โดยในอนาคตจะมีการต่อยอดให้มีบริการเพิ่มขึ้น เช่น บริการแจ้งเตือนเวลาเดินทางที่สแกนจากตั๋วโดยสาร (boarding pass ) และจะมีเสียงแจ้งเตือนให้ผู้เดินทางทราบว่าถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว รวมถึงการเชื่อมโยงบริการกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะรองรับในท่าอากาศยานต่างประเทศตั้งแท็กซี่ลิมูซีนและจองที่พักของสนามบินชั้นนำในต่างประเทศ เช่นเซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งผู้บริหาร ทอท.จะไปเจรจาเชื่อมโยงข้อมูลในแอพพลิเคชั่น

ทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  ทอท.เผยผลดำเนินการรอบ 6 เดือน (ต.ค. 61 – พ.ค. 62) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง มีบริการ 606,891 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.67 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 328,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.23 และเที่ยวบินภายในประเทศ 278,391 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.79 ผู้โดยสาร 97.23 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.78 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 57.06 ส้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.72 และผู้โดยสารภายในประเทศ 40.17 ล้านคน ลดลงร้อยละ 0.85  ขณะที่ผลประกอบการรอบ 6 เดือน. มีรายได้รวม  32,816.69 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย 15,275.45 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,565.42 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับงวดดังกล่าว 13,975.81 ล้านบาท โดยยอมรับว่าปัจจัยที่ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้โตตามเป้าต้นปีมาจากปริมาณผู้โดยสารที่ลดลงทั้งในส่วนของผู้โดยสารจากยุโรป และที่สำคัญผู้โดยสารจากจีนรับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง