ปักกิ่ง 9 ก.ย.- ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งโดยรวมในจีนเมื่อเดือนสิงหาคมลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน แม้ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้นก็ตาม
สมาคมรถยนต์นั่งจีนเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งโดยรวมในเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 1.92 ล้านคัน ลดลงร้อยละ 1.1 จากเดือนสิงหาคม 2566 และลดลงร้อยละ 3.1 จากเดือนกรกฎาคม 2567 แต่หากแยกดูเฉพาะรถยนต์พลังงานใหม่หรือเอ็นอีวี (NEV) พบว่า ครองสัดส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนสิงหาคมปีนี้มากเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 53.5 โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43.2 จากเดือนสิงหาคมปีก่อน
ยอดจำหน่ายเอ็นอีวีในจีนเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากมีการสนับสนุนให้ผู้ขับขี่รถยนต์สันดาปนำรถมาแลกซื้อรถเอ็นอีวี โดยจะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 20,000 หยวน (ราว 95,400 บาท) อย่างไรก็ดี รอยเตอร์มองว่า มาตรการจูงใจนี้ไม่สามารถช่วยเหลือบรรดาตัวแทนจำหน่ายที่เผชิญความท้าทายเรื่องรถมีราคาถูกลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ผลิตรถอีวีเริ่มออกรถรุ่นที่มีราคาถูกลง เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง สมาคมตัวแทนจำหน่ายยานยนต์จีนเผยว่า ตัวแทนจำหน่ายกว่าครึ่งหนึ่งประสบภาวะขาดทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 จากช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566.-814.-สำนักข่าวไทย
