เปิดบันทึกก่อนเสียชีวิตของ “น้องชายแดน”

นครสวรรค์ 21 มิ.ย. – เปิดบันทึกก่อนเสียชีวิตของ “น้องชายแดน” เหยื่อโรงเรียนกวดวิชาโหด ขณะที่ครอบครัวภูมิใจ แม้ลูกชายจะเสียชีวิตก่อนไปถึงฝั่งฝัน แต่ได้เปิดเผยด้านมืดของสถาบันกวดวิชาเถื่อนแห่งนี้ 


นี่คือบันทึกที่ “น้องชายแดน” เหยื่อสถาบันกวดวิชาโหด เขียนถึงพ่อและแม่ ก่อนจะเสียชีวิตไม่กี่วัน โดยมีเนื้อหาระบายถึงความคับแค้นใจที่ถูกด่าและลงโทษ ที่สำคัญคือข้อความระบุว่า อยากออกจากที่นี่แล้ว นับเป็นครั้งแรกที่เห็นลูกชายบอกว่าไม่อยากอยู่ที่สถาบันกวดวิชาแห่งนี้ แต่ก็ไม่สามารถพาลูกกลับบ้านได้ เพราะได้เห็นบันทึกนี้หลังลูกชายจากไปแล้ว 


“น้องชายแดน” ใฝ่ฝันอยากเป็นทหารตั้งแต่เด็ก กระทั่งอายุ 13 ปี ปิดเทอม ม.1 จึงขอดรอปเรียนจากระบบการศึกษาภาคปกติ เพื่อเรียนกวดวิชาและเตรียมร่างกายเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ที่สถาบันกวดวิชาบ้านครูพี่ณัฐ ซึ่ง “น้องชายแดน” มีความชื่นชมและศรัทธาในตัว “ครูณัฐ” มาก แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ความมุ่งมั่นและตั้งใจของลูกชาย จึงใจอ่อนยอมให้เข้าเรียนตามฝัน โดยค่าใช้จ่ายในการเรียนพร้อมกินอยู่ปีแรก 210,000 บาท ส่วนปีที่ 2 จำนวน 250,000 บาท ในจำนวนนี้ยังไม่รวมค่าเอกสารการเรียน และหมึกปรินท์  


โดยปีแรกได้เห็นพัฒนาการของ “น้องชายแดน” ทั้งด้านคณิตศาสตร์ และสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ช่วงแรกสามารถมาเยี่ยมได้ทุกสัปดาห์ แต่ต้องแจ้ง “ครูณัฐ” ล่วงหน้า ขณะที่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเรียนในปีที่ 2 พบว่าแววตาลูกชายแฝงไปด้วยความเศร้า ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา กระทั่งครั้งสุดท้ายที่ไปเยี่ยม คือ 2 มิถุนายน สังเกตเห็นลูกชายมีบาดแผลตามตัว ซึม ไม่ค่อยพูด จึงเอ่ยชวนลูกชายกลับไปอยู่บ้านที่ จ.ตาก แต่ลูกบอกว่าอยู่ได้ แล้วมันจะผ่านไป 

ข้อความในบันทึกหน้านี้บ่งบอกว่า แม้จะมีอายุเพียง 14 ปี แต่ “น้องชายแดน” เป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต ทั้งด้านการเรียน การใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ การตอบแทนคุณพ่อแม่และยาย จนถึงวันที่ตัวเองเกษียณ นอกจากนี้ยังมีบันทึกอื่นๆ ที่ระบุข้อความตัดพ้อ ต่อว่า และเขียนถึงทางเลือกของตัวเองว่าจะกลับบ้านหรืออยู่ต่อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครียด เนื่องจากถูกกระทำมาเป็นเวลานานพอสมควร

จนถึงวันนี้ครอบครัวยังทำใจต่อการจากไปของลูกชายคนเดียวไม่ได้ การที่เห็นลูกหยุดหายใจไปต่อหน้าต่อตา คือ ความทรมานใจที่สุด

มีรายงานว่า ที่ผ่านมา “นายณัฐ” มักใช้ความรุนแรงกับเด็กที่มาเรียน และมักอวดอ้างตัวเองว่าเป็นร่างทรงเทพ ทุกสัปดาห์จะมีวันล้างบาป โดยให้เด็กนักเรียนแต่ละคนถือไม้เบสบอลมารวมตัวกัน รุมตีคนที่ทำผิด เพื่อเป็นการชำระบาป ซึ่ง “น้องชายแดน” เคยถูกรุมทุบตีในวันล้างบาปมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งมาถูกรุมทุบตีครั้งสุดท้ายจนหัวแตกแขนหัก รวมถึงก่อนวันที่ “น้องชายแดน” จะเสียชีวิต ก็ถูกรุมทุบตีอีก เพียงเพราะไปขอโทรศัพท์จากแม่ยาย เพื่อจะติดต่อกับทางบ้าน 

อย่างไรก็ตาม ครอบครัว “น้องชายแดน” ต้องการให้คนทำผิดได้รับโทษสูงสุด เพราะจะได้ไม่มีโอกาสทำร้ายเด็กคนอื่นๆ ที่เป็นอนาคตของชาติ อย่างเช่นที่กระทำกับ “น้องชายแดน”

ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ นัดสอบปากคำผู้ปกครองนักเรียนของสถาบันกวดวิชาบ้านครูพี่ณัฐ รายอื่นๆ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง