นครสวรรค์ 20 มิ.ย.- เจ้าของสถาบันกวดวิชาเตรียมทหาร ภรรยา และแม่ยาย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันทำร้าย “น้องชายแดน” จนเสียชีวิต ยังปฏิเสธ ขณะนี้ถูกคุมตัวในเรือนจำจังหวัด ด้านตำรวจนำไม้เบสบอล 8 อัน ส่งตรวจพิสูจน์
บรรยากาศที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พนักงานสอบสวนประชุมเครียดมี พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ประชุมทีมสืบสวน นำหลักฐานไม้เบสบอล 8 อัน ที่ค้นพบใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง พื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ไปส่งตรวจพิสูจน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนนำมาประกอบสำนวนน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ด้วย
โดยไม้เบสบอลทั้งหมดนี้ มีรายงานจากแหล่งข่าวว่า ได้นำไปทิ้งถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังทำร้ายน้องชายแดนจนหัวแตก แขนหัก นายณัฐพล จึงนำไม้ที่ใช้ทำร้ายไปทิ้งก่อน 4 อัน แต่ครั้งนี้รุนแรงจนน้องชายแดนเสียชีวิต นายณัฐพล จึงให้เด็กชายที่เป็นลูกสมุนนำไม้เบสบอลที่เหลือ ทั้งไม้ที่ใช้ตี และไม้ที่ยังใหม่ไม่ได้ใช้ เพื่อทำลายหลักฐาน โดยนายณัฐพล เป็นผู้ขับรถพาไปทิ้งบริเวณใต้สะพานแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีบ้านคนพักอาศัย
การที่นายณัฐพล ต้องนำไม้เบสบอลที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดเอาไปทิ้ง เพราะ กลัวจะเป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงประเด็นการใช้ความรุนแรงในสถาบันได้ แต่สุดท้ายชุดค้นหา ติดตามหาวัตถุพยานสำคัญ จนพบ พร้อมกับมีหลักฐานเป็นป้ายชื่อนายณัฐพล ติดไว้ที่ถุงห่อไม้เบสบอลด้วย
ส่วนประเด็นร่องรอยอวัยวะที่มีรอยไหม้นั้น เป็นการสั่งการจากนายณัฐพล ไปยังเด็กชายลูกสมุนระดับหัวหน้า ให้ไปบังคับเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ด้วยกัน ร่วมกันจับขึงน้องชายแดนไม่ให้ดิ้นหนี จากนั้นจึงจุดไฟแช็กลนที่อวัยวะเพศ ต่อหน้าเพื่อนๆ ที่ร่วมกันทำทั้งที่ไม่เต็มใจ แต่เพราะโดนบังคับ หากไม่ร่วมมือจะถูกรุมทำร้าย ซึ่งสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารแห่งนี้ ใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนที่มาเก็บตัวเพื่อศึกษาอยู่ตลอด และตัวน้องชายแดนนั้น ไม่ได้แค่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง 2 ครั้ง แต่ถูกกระทำหลายครั้ง
ขณะที่เช้าวันนี้ นายอรรถพร สีหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม วางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เช่นเดียวกับสถาบันกวดวิชาเตรียมทหาร “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” ซึ่งในห้องประชุมกลุ่มโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จ.นครสวรรค์ ได้ชี้แจงให้ข้อมูลว่าสถาบันที่เป็นข่าวนั้น ไม่ได้ขอจดทะเบียนจัดตั้งโรงเรียนอย่างถูกต้อง หรือเรียกว่าโรงเรียนเถื่อน จึงไม่มีระบบประกันคุณภาพการตรวจนิเทศจาก ศธจ. แต่อย่างใด ซึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินกับตำรวจที่สภ.เมืองนครสวรรค์ ไว้แล้ว.-สำนักข่าวไทย