นครสวรรค์ 19 มิ.ย.- ครูสถาบันกวดวิชาถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย “น้องชายแดน” จนเสียชีวิตเครียดจัดปล่อยโฮลั่นห้องขัง ทนายรับหากผิดจริงให้สารภาพลดโทษ
ความคืบหน้าคดีที่น้องชายแดน ทรัพย์สิน อายุ 14 ปี เข้าไปศึกษาและเก็บตัวอยู่ที่สถาบันดังกล่าว แล้วถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายเกิดจากการบาดเจ็บของตับอ่อน จากการกระทบต่อช่องท้อง เมื่อวานนี้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ตำรวจกองปราบปราม พร้อมหมายจับบุกเข้าจับกุมตัวนายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ อายุ 27 ปี เจ้าของสถาบันกวดวิชา รวมถึง น.ส.พีรญา พละแสน อายุ 25 ปี ภรรยา และน.ส.นงลักษณ์ พละแสน อายุ 54 ปี แม่ยาย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
พันตำรวจเอก สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กล่าวว่าการเข้าตรวจค้นภายในโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว พบหลักฐานสำคัญจนนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับ นายณัฐพล, น.ส.พีรญา พละแสน และ น.ส.นงลักษณ์ พละแสน ภรรยาและแม่ยาย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่ในเบื้องต้นทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ
สำหรับการออกหมายจับกุมตัวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีพยานหลายปาก ทั้งเด็กที่เรียนสถาบันเดียวกัน ทั้งศิษย์เก่าที่ออกไปแล้ว และศิษย์ปัจจุบันที่ยังศึกษาอยู่ ให้ปากคำยืนยันชัดว่า นายณัฐพล มีส่วนร่วมกับศิษย์ที่เป็นหัวโจกอีก 4 คน ทำร้ายน้องชายแดนจนเสียชีวิต
ล่าสุดเช้าวันนี้ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ประชุมทีมพนักงานสอบสวนสืบสวน เพื่อนำสำนวนและหลักฐานทั้งหมดที่เมื่อวานนี้ได้กระจายกำลังลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่ม นำมาแลกเปลี่ยนกันและประชุมทีมสอบสวนว่าจะต้องสอบประเด็นใดเพิ่มเติมบ้าง โดยชุดสืบสวนพยายามจะหาหลักฐานสำคัญคือ ไม้เบสบอล ซึ่งคนร้ายใช้ลงมือสังหารและนำไปทิ้งแม่น้ำปิง จำนวน 8 อัน ซึ่งไม้เบสบอลทั้งหมดไม่จมน้ำ ลักษณะลอยไปตามแม่น้ำ และอาจจะติดท่าชาวบ้าน หรือติดเรือหาปลา ชาวบ้านอาจเก็บไปแล้วก็ได้ ซึ่งวันนี้จะให้ชุดติดตามค้นหาออกสอบถามชาวบ้านริมแม่น้ำว่าเก็บไม้เบสบอลได้หรือไม่ จะมีการนำคอมพิวเตอร์ที่ยึดได้จากบ้านของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ทั้งการเก็บข้อมูล และการพูดคุยผ่านโปรแกรมแชทต่างๆ เพื่อหาข้อมูลหลักฐานความเชื่อมโยงต่อไป
ขณะเดียวกันชุดสอบสวนก็ยังคงต้องเบิกตัวผู้ต้องหา 3 คนมาสอบเพิ่มในบางประเด็น โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเด็กที่มาอาศัยในบ้านหลังนี้ และพฤติกรรมของครูณัฐ ซึ่งมีรายงานว่ามักชอบกระทำแปลกๆ โดยบอกว่าตนเองมีองค์ และที่ผ่านมาผู้ต้องหาก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม ก่อนเที่ยงวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังยังศาลจังหวัดนครสวรรค์ต่อไป โดยจะคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญกลัวผู้ต้องหาจะไปทำลายหลักฐาน และข่มขู่พยาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล คาดว่าทนายจะยื่นประกันตัวในชั้นศาลแน่นอน ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
มีรายงานว่าทนายความของครูณัฐ เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวไว้แล้ว กว่า 700,000 บาท เบื้องต้นจะขอพบพูดคุยเปิดอกกับผู้ต้องหาทั้งหมด หากผู้ต้องหากระทำความผิดจริง ทนายแนะนำให้ทั้งหมดรับสารภาพ เพื่อจะได้ลดโทษ แต่หากไม่ได้กระทำความผิดจะต้องต่อสู้ต่อไป ทั้งนี้ทนายจะพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้งหมดหลังได้รับการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในห้องขัง สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไว้นั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยเฉพาะครูณัฐ ถึงกับร้องไห้โฮกลางห้องขัง ชนิดไม่อายสายตาเพื่อร่วมห้องขัง เพราะอาการเครียดที่ถูกสอบสวนทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ยอมรับประทานอาหาร สิบเวรต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง ส่วนภรรยาและแม่ยาย อยู่ในอาการนิ่งเฉยไม่เครียด ใช้ชีวิตในห้องขังได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย
