นครสวรรค์ 19 มิ.ย.- ตำรวจพบไม้เบสบอล 4 อัน จากทั้งหมด 8 อัน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดีทำร้าย “น้องชายแดน” จนเสียชีวิต ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขังผัดแรก ล่าสุด ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว และส่งตัวเข้าเรือนจำนครสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ คุมตัว 3 ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกาย ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือ “น้องชายแดน” อายุ 14 ปี จนเสียชีวิต นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาที่เกิดเหตุ น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ พละแสน แม่ยาย ไปขออำนาจศาลจังหวัดนครสวรรค์ฝากขังเป็นครั้งแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยล่าสุด ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว และส่งตัวเข้าเรือนจำนครสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการหาหลักฐานเพิ่มเติมในเรื่องของไม้เบสบอล ซึ่งพยานซัดทอดว่าผู้ต้องหานำไปทิ้งที่แม่น้ำปิง บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง พื้นที่ตำบลบ้านแก่ง ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตำรวจพบไม้เบสบอล 4 อัน จากทั้งหมด 8 อัน โดยผู้พบเห็นเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี เจอไม้เบสบอลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน และเก็บกลับบ้านพัก แต่เมื่อพบเป็นข่าวจึงแจ้งตำรวจ เพราะที่พลาสติกห่อหุ้มไม้เบสบอล มีชื่อของนายณัฐพล ผู้ต้องหา ติดไว้อยู่
สำนักข่าวไทย ตรวจสอบพบว่า บ้านที่เป็นสถาบันกวดวิชากับจุดที่ทิ้ง “ไม้เบสบอล” อยู่ห่างกันเพียง 10 กิโลเมตร และสอดคล้องกับข้อมูลที่ “น้องชายแดน” บาดเจ็บเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่ผู้ต้องหาได้พยายามปิดกั้นไม่ให้ “น้องชายแดน” ติดต่อกับทางบ้าน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่วิทยาการอยู่ระหว่างนำไม้เบสบอลไปตรวจสอบ และกำลังค้นหาไม้เบสบอลที่เหลืออีก 4 ชิ้น ซึ่งคาดว่าอาจลอยไปตามน้ำ โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า “ไม้เบสบอล” ทั้งหมดถูกสั่งซื้อออนไลน์มา แต่ยังต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการว่าถูกนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่
ก่อนหน้านั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายณัฐพล หรือ “ครูณัฐ” ถูกคุมตัวในห้องควบคุม ได้ร้องไห้โฮอย่างหนักแบบไม่อายสายตาของเพื่อนร่วมห้องขัง เบื้องต้นอาจเครียดหนัก เพราะถูกสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานนี้ และไม่ยอมรับประทานอาหาร ส่วนภรรยาและแม่ยายของนายณัฐพล มีอาการนิ่งเฉย ขณะที่ทนายความผู้ต้องหากำลังพยายามพูดคุยเพื่อกำหนดแนวทางสู้คดี แต่หากผิดจริง จะแนะนำให้รับสารภาพเพื่อบรรเทาโทษ
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ และจากการสอบปากคำเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าทั้งหมดยังไม่ให้ความร่วมมือมากนัก โดยประเด็นที่สอบสวนเน้นหนักไปที่จำนวนนักเรียนที่พักอาศัยในบ้าน รวมถึงพฤติกรรมของ “ครูณัฐ” ที่พบว่ามักมีการกระทำที่แปลกๆ อาทิ อ้างว่ามีองค์.-สำนักข่าวไทย