วอชิงตัน 20 มิ.ย.- ผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่กังวลว่ารัฐบาลต่างชาติอาจแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้าด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง เช่น แก้ไขผลคะแนน ขโมยข้อมูล มีอิทธิพลต่อผู้สมัครหรือความเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สำนักข่าวเอพีร่วมกับศูนย์เพื่อการวิจัยกิจการสาธารณะเอ็นโออาร์ซีสอบถามความเห็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,116 คนระหว่างวันที่ 13-17 มิถุนายนพบว่า ร้อยละ 63 กังวลเรื่องรัฐบาลต่างชาติอาจแทรกแซงการเลือกตั้งปีหน้า ชาวเดโมแครตที่กังวลเรื่องนี้มีมากถึงร้อยละ 80 ส่วนชาวรีพับลิกันกังวลร้อยละ 46 ผู้ตอบครึ่งหนึ่งกังวลมากว่า ต่างชาติอาจแทรกแซงด้วยการแก้ไขผลคะแนนหรือระบบการลงคะแนน มีอิทธิพลต่อผู้สมัครหรือความคิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือเจาะระบบคอมพิวเตอร์ผู้สมัครเพื่อขโมยข้อมูล
ผลสำรวจนี้สะท้อนว่า แม้ทางการสหรัฐพยายามดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดการแทรกแซงเลือกตั้งและขอให้ประชาชนตระหนักแต่ไม่ตระหนก ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังคงกังวลว่าอาจมีการใช้เทคนิคเดียวกันกับที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2559 เช่น การแพร่กระจายข้อมูลเท็จออนไลน์สร้างความแตกแยกให้คนในประเทศ การเจาะระบบอีเมลพรรคเดโมแครตมาเผยแพร่ในเว็บไซต์วิกิลีกส์ นายคริส เรย์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ (FBI) เผยเมื่อเดือนเมษายนว่า เอฟบีไอถือว่าการเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนเป็นการซ้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า เพราะได้เห็นการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2559 แต่สิ่งที่ไม่เห็นในการเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อปีก่อนคือการแทรกแซงหรือผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อโครงสร้างพื้นฐานในการหาเสียง เพราะระบบการกระจายอำนาจที่ให้แต่ละท้องที่ใช้ระบบการลงคะแนนที่แตกต่างหลากหลายทำให้แฮกเกอร์ก่อปัญหาในวงกว้างได้ลำบาก.-สำนักข่าวไทย