รู้จัก 7 รัฐสวิงสเตทในการเลือกตั้งสหรัฐ

campaign for voting in US

วอชิงตัน 4 พ.ย.- ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ทุกสายตาจับจ้องไปที่ผลคะแนนในรัฐที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่ได้เป็นฐานเสียงของผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันอย่างชัดเจน


รัฐเหล่านี้เรียกว่า รัฐสมรภูมิ หรือสวิงสเตท หรือแบตเทิลกราวด์สเตท สำหรับการเลือกตั้งในปีนี้มีทั้งหมด 7 รัฐ และมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) เรียงลำดับจากมากไปน้อยดังนี้ เพนซิลเวเนีย (19 คะแนน) จอร์เจีย (16 คะแนน) นอร์ทแคโรไลนา (16 คะแนน) มิชิแกน (15 คะแนน) แอริโซนา (11 คะแนน) วิสคอนซิน (10 คะแนน) และเนวาดา (6 คะแนน) รวมทั้งหมด 93 คะแนน จากที่ผู้สมัครจะต้องได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 270 คะแนน หรือเกินครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 538 คะแนนทั้งประเทศ จึงจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

สำรวจผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาในแต่ละรัฐสวิงสเตท


เพนซิลเวเนีย : ผลการเลือกตั้งในรัฐนี้มักชี้ตัวผู้ชนะ เพราะผู้ชนะ 10 ครั้งในการเลือกตั้งล่าสุด 12 ครั้ง คือ ผู้ที่ได้ครองทำเนียบขาว ส่วนหนึ่งเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐนี้เป็นภาพสะท้อนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันทั้งประเทศในเรื่องความเป็นพื้นที่ชนบทและระดับการศึกษา

Donald Trump wearing red cap at campaign rally in Pennsylvania
ทรัมป์หาเสียงที่เพนซิลเวเนีย 3 พ.ย.67

จอร์เจีย : รัฐนี้เพิ่งมาเป็นรัฐสมรภูมิในปี 2563 เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนไม่ถึงร้อยละ 0.5 ทั้งที่เคยเอาชนะฮิลลารี คลินตัน อดีตสตรีหมายเลข 1 จากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนมากกกว่าร้อยละ 5 ในการเลือกตั้งปี 2559

นอร์ทแคโรไลนา : บารัก โอบามา เป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนหลังสุดที่ชนะเลือกตั้งในรัฐนี้ในปี 2551 หลังจากนั้นผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันกวาดไปหมด และในการเลือกตั้งปี 2563 รัฐนี้เป็นรัฐสมรภูมิรัฐเดียวที่ทรัมป์ชนะ อย่างไรก็ดี ประชากรในหลายเทศมณฑลของรัฐนี้เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเดโมแครตมากขึ้น คอมมาลา แฮร์ริสจึงมีโอกาสได้ลุ้น


Trump rallies in North Carolina
ทรัมป์หาเสียงที่นอร์ทแคโรไลนา 2 พ.ย.67
Harris rallies in North Carolina
แฮร์ริสหาเสียงที่นอร์ทแคโรไลนา 2 พ.ย.67

มิชิแกน : พรรคเดโมแครตกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2535-2555 แต่ทรัมป์สามารถยึดได้ในปี 2559 ก่อนถูกไบเดนยึดกลับไปในปี 2563 ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งที่เป็นมุสลิม 200,000 คนในรัฐนี้อาจทำให้ผลการเลือกตั้งพลิกผัน เพราะรัฐบาลไบเดนเสียคะแนนนิยมอย่างมากจากการสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซา

Kamala Harris at campaign rally in Michigan
แฮร์ริสหาเสียงที่มิชิแกนครั้งสุดท้าย 3 พ.ย.67

แอริโซนา : ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตชนะในรัฐนี้ได้เป็นครั้งแรกในปี 2563 นับจากนายบิล คลินตันชนะในปี 2539 รัฐนี้ถูกมองว่าเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกันมาโดยตลอด แต่คนเริ่มหันเหออกจากพรรคมากขึ้น จนกระทั่งผลการสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งที่ระบุว่าเป็นรีพับลิกันมีเพียงร้อยละ 36 เป็นเดโมแครตร้อยละ 29 และไม่เป็นทั้ง 2 พรรคมีมากถึงร้อยละ 35

วิสคอนซิน : เป็นฐานเสียงพรรคเดโมแครตที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะมาได้ในการเลือกตั้งปี 2559 เพราะก่อนหน้านั้นไม่มีผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันได้ชัยชนะในรัฐนี้เลย นับจากนายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีในขณะนั้นที่ทำได้ในปี 2527

เนวาดา : ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันไม่เคยได้ชัยชนะในรัฐนี้เลยนับจากจอร์จ ดับเบิลยู บุช ชนะในปี 2547 แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อน ไบเดนชนะทรัมป์ด้วยคะแนนเพียงร้อยละ 2 เนื่องจากทรัมป์ตีตื้นในเทศมณฑลคลาร์ก ซึ่งมีประชากรเกือบ 3 ใน 4 ของทั้งรัฐ เพราะเป็นที่ตั้งของนครลาสเวกัส เมืองแห่งการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ ทรัมป์และแฮร์ริสต่างชูนโยบายยกเว้นการเก็บภาษีกับค่าทิป หวังจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ส่วนใหญ่ทำงานในภาคบริการ.-814.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]