“ไบโอแมทริกซ์” ตม.จับชาวมาเลฯปลอมพาสปอตคาสุวรรณภูมิ

กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- ตม.สนามบิน รวบหนุ่มต่างชาติ ปลอมพาสปอต มาเลเซีย หลังระบบไบโอแมทริกซ์ จับได้ ว่า เป็นคนละคนกันกับพาสปอร์ต ขยายผลพบซุกเงินกว่า 5 แสนดอลล่า


พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะโฆษก บก.ตม.2 เปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ด่าน ตม.สุวรรณภูมิ พบผู้โดยสารชายชาวเอเชียถือหนังสือเดินทางชื่อ Mr.Oh chee boon สัญชาติมาเลเซีย  เช้าวันนี้(24 พ.ค.) เมื่อทำการตรวจหนังสือเดินทางผ่านช่องตรวจทดสอบ ของระบบโครงการ Biometric โดยจะเดินทางไปกับสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลเที่ยวบิน PR731ไปยังประเทศฟิลิปปินส์

โดยระบบประมวลผลเทียบเคียงใบหน้า facial recognition ของระบบ Biometric พบว่า ข้อมูลภาพในหน้า Data oage ไม่ตรงกับข้อมูลภาพใน chip หนังสือเดินทาง และ ภาพถ่ายผู้เดินทาง จากกล้องบันทึกที่ช่องตรวจ ตม. แสดงผลว่า ไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและสืบสวนขยายผล


 จากการซักถามเบื้องต้น ชายคนดังกล่าว ยังยืนยันว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับพาสปอร์ต แต่จากการตรวจสอบทางเทคโนโลยี vsc 6000 พบว่าเป็นพาสปอร์ตปลอม นอกจากนั้น ยังพบเงินสด เป็น us dollar ประมาณ 500,000 usd และ มีประวัติการเข้าออกทางด่านชายแดนไทย-เมียนมาร์ ด้วยพาสปอร์ตเล่มดังกล่าวหลายครั้ง ซึ่งมีการตรวจพบด้วยระบบ biometric ที่สุวรรณภูมิ จนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า ใช้หรือมีใว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมและปลอมและใช้ดวงตรารอยตราหรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอม(ปลอมรอยตราประทับ) และจะทำการขยายผล ถึงจุดประสงค์ และ ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยส่ง พงส. สตม.ดำเนินคดี ขยายผลเครือข่ายต่อไป  

สำหรับ Biometric หรือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจบุคคลด้วยเทคโนโลยี Biometrics เป็นโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นำเทคโนโลยีชีวภาพ มาใช้ควบคู่กับระบบตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้เทคโนโลยี Biometrics พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ทั้งข้อมูลลายนิ้วมือ finger print และ ข้อมูลใบหน้า facial recognition ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการพิสูจน์ตัวบุคคลเพิ่มขึ้นจากข้อมูลหนังสือเดินทางปกติ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนชื่อ หรือเอกสารเดินทาง เพื่อหลบเลี่ยงข้อมูลเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นการยกระดับการคัดกรองบุคคลเข้าออกราชอาณาจักร เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น โดยได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมาณจากค่าธรรมเนียม ตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 2 พันกว่าล้าน ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามกฏหมาย และขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดสอบการทำงาน ตาม TOR ในงวดงานที่ 4 จาก 6 งวดงาน เพื่อคลอบคลุมการทำงาน ด่านชายแดนทางบก เรือ อากาศ และการตรวจขออยู่ต่อทั่วประเทศต่อไป ตามนโยบายยกระดับขีดความสามารถด้านความมั่นคงของ รัฐบาล และ ผบ.ตร .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ