พรรคประชาธิปัตย์ 23พ.ค.-“ชวน” ปัดนั่งประธานสภา ชี้ “บัญญัติ”เหมาะสม ยันไม่ขัดแย้งกับ “พีระพันธุ์” บอกถ้าจะไม่ยกมือไหว้ไม่นับถือกันก็ไม่เป็นไร ย้ำเรื่องตั้งรัฐบาล ต้องเป็นไปตามมติพรรค ชี้ในอดีตร่วมรัฐบาลได้ ก็ถอนได้หากมีทุจริต
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุมีการพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการตั้งรัฐบาลว่า ไม่เป็นความจริง มีเพียงบุคคลใกล้ชิดพล.อ.ประวิตรบางคนที่มาอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ ซึ่งขอยืนยันว่าตนเองไม่เคยพูดโกหก กระแสข่าวตอนนี้มีเพียงเรื่องเข้าใจผิด แม้มีคนโทรศัพท์เข้ามาจริง แต่ไม่มีเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. ของพรรคจะมีมติร่วมกัน ตนเองก็มี 1เสียง ไม่สามารถสั่งใครได้ และโดยปกติแล้วพรรคมีมติอย่างไร จะเป็นไปตามนั้น ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นพรรคก็แตก แต่อดีตที่ผ่านมาแม้ร่วมได้ก็ถอนตัวได้ หากมีการทุจริต ก็ถอนตัวออกมา
ส่วนกระแสข่าวว่าจะเสนอชื่อนายชวน เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวออกมาอย่างไร แต่เคยพูดกันว่าหากพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเลือกประธานสภาฯ คนที่เหมาะที่สุดคือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน แต่ถ้าปฏิเสธก็ถือว่าจบไป ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีความเหมาะสม แต่อาจจะไม่สนใจตําแหน่งนี้ แต่ไม่มีการพูดถึงชื่อตน เพราะเคยเป็นมาแล้ว และส่วนตัวมีความตั้งใจจะทำหน้าที่ในพรรค เพื่อช่วยคนที่สอบตกให้กลับมาสอบได้อีกครั้ง ด้วยการเข้าถึงประชาชน อย่างการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดเชียงใหม่ หากพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเพิ่มขึ้นอีก ก็มีโอกาสที่จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คนคือนางสาวจิตภัสร์ กฤดากร
นายชวน ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในการประชุม ส.ส.ของพรรคนัดแรกเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ระหว่างการประชุมก็มีการอธิบายถึงเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพาดพิงด้วย โดยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค บอกว่าขอให้ทุกอย่างอยู่ในการประชุม หลังจากนั้นจึงได้ออกจากห้องประชุมก่อนเพราะติดภารกิจต้องไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่
นายชวน กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีเรื่องขัดแย้งกับนายพีระพันธุ์ เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ทะเลาะกันเหมือนเด็ก ดีที่สุดคือพูดความจริง หากใครจะไม่ชอบใจใคร ก็เป็นเรื่องส่วนตัวภายใน ถ้าจะไม่ยกมือไหว้ไม่นับถือกันก็ไม่เป็นไร แต่การประจานข้างนอกในเรื่องที่ไม่จริง เป็นเรื่องที่เสียหาย ที่กล่าวหาว่าเป็นบุคคลมีบารมี ซึ่งเข้าใจว่าผลการเลือกหัวหน้าพรรคที่ออกมาอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจ ยืนยันว่าไม่ได้ใช้อำนาจบารมี ไปบังคับให้มีการเลือกบุคคลใด แต่ตนเลือกนายจุรินทร์เนื่องจากมีความเหมาะสมที่สุดและมีความรู้ ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ พร้อมย้ำว่าเรื่องราวต่างๆ ต้องยึดความจริงเป็นหลักว่าเกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งต้องยอมรับว่าการพาดพิง ทุกคนรับรู้ตรงกันว่าหมายถึงตนเอง
นายชวน กล่าวว่า การแสดงออกทั้งหมดเป็นเพียงเพราะไม่ต้องการให้มีอำนาจภายนอกเข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในพรรค ถึงขั้นโทรศัพท์ไปหาถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีข่าวว่าคนของ กทม. จะเข้ามาแทรกแซง ซึ่งผู้ว่า กทม. ก็บอกว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย