วอชิงตัน 21 พ.ค.- นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ชี้ว่า หนี้สินภาคธุรกิจที่พอกพูนเป็นความเสี่ยงปานกลางต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ร่างสุนทรพจน์ที่นายพาวเวลล์จะกล่าวที่รัฐฟลอริดาระบุว่า กระแสความคิดเห็นของสังคมต่อเรื่องหนี้ภาคธุรกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไม่ได้เตือนว่าเป็นอันตรายร้ายแรงหรือมองว่าไม่น่ากังวล แต่ในความจริงแล้วเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างกลาง หนี้ภาคธุรกิจไม่ได้เป็นความเสี่ยงสูงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่จะก่ออันตรายในวงกว้างต่อครัวเรือนและธุรกิจหากสถานการณ์แย่ลง แต่ขณะเดียวกันปริมาณหนี้ก็อาจทำให้ผู้กู้ยืมกังวลหากเศรษฐกิจอ่อนตัว นายพาวเวลล์มองว่า ไม่ควรนำสถานการณ์ขณะนี้ไปเปรียบเทียบกับวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์หรือหนี้ด้อยคุณภาพที่เป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกปี 2551 เพราะธนาคารได้ปฏิรูปขนานใหญ่หลังวิกฤตทำให้ภาคการเงินมีความยืดหยุ่นต่อหนี้เสีย ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ และเครื่องมือการลงทุนที่ใช้ซื้อขายหนี้ก็มีความแข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ระดับหนี้ภาคธุรกิจต่อมูลค่าสินทรัพย์ได้ขึ้นไปอยู่ที่ช่วงบนสุดของแถบความผันผวนในช่วงหลายทศวรรษมานี้ และหนี้ภาคธุรกิจในระดับที่ลงทุนได้กำลังเสี่ยงจะเข้าสู่ระดับขยะ
แวดวงนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวมาหลายปีประกอบกับอัตราดอกเบี้ยต่ำทำให้ภาคธุรกิจทั่วสหรัฐในหลากหลายอุตสาหกรรมมีหนี้สินหลายเท่าของรายได้ ปริมาณหนี้เติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจในช่วงทศวรรษหลังสุด หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยหรือเศรษฐกิจชะลอตัว ภาคธุรกิจเหล่านี้จะมีปัญหาในการชำระหนี้ สร้างความเสี่ยงให้แก่เศรษฐกิจในวงกว้าง ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เตือนเมื่อไม่นานมานี้เช่นกันว่า ระดับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก.-สำนักข่าวไทย