เอ็กซองโพรวองซ์ 7 ก.ค.- กลุ่มผู้นำภาคธุรกิจในฝรั่งเศสกังวลว่า จะเกิดความผันผวนทางการเมือง กลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเมืองที่ไร้ประสบการณ์ การประท้วงตามท้องถนน และอาจเกิดการล้มละลายตาม ๆ กัน ในอีกไม่เดือน หลังการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติรอบ 2 ในวันนี้
กลุ่มผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีที่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของประเทศระหว่างวันที่ 5-6 กรกฎาคมแสดงความกังวลว่า หากไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด ก็อาจจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลผสมหลังการเมือง ทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพ เกิดความไม่สงบทางสังคม ขณะเดียวกันนักการเมืองที่อยู่แถวหน้าของผู้ที่จะมีอำนาจล้วนแต่ไร้ประสบการณ์ในการบริหารประเทศ หากความผันผวนทางการเมืองไม่มีสัญญาณว่าจะสงบลงโดยเร็ว ภาคธุรกิจจะต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และอาจมีบริษัทผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาคธุรกิจเป็นกลุ่มหลักที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการปฏิรูปสนับสนุนภาคธุรกิจที่ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงดำเนินมาตั้งแต่รับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2560 แต่พรรคเนชันแนลแรลลีหรืออาร์เอ็น (RN) ที่เป็นพรรคขวาจัดต้องการยกเลิกนโยบายของมาครงที่ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปี ขณะที่นิวป็อปปูลาร์ฟรอนต์ (New Popular Front) ที่เป็นการจับมือกันของพรรคฝ่ายซ้ายต้องการฟื้นนโยบายเก็บภาษีความร่ำรวย และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกร้อยละ 14 ผลการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อาร์เอ็นได้คะแนนร้อยละ 29.26 นิวป็อปปูลาร์ฟรอนต์ได้คะแนนร้อยละ 28.21 และอองซอมเบลอ (Ensemble) พันธมิตรสายกลางที่มีพรรคของมาครงเป็นแกนนำได้คะแนนร้อยละ 21.28.-814.-สำนักข่าวไทย