จับแล้วลูกจ้างฆ่าเผา 2 ศพนายจ้างร้านซ่อมท่อสูบน้ำพรหมพิราม

พิษณุโลก 19 พ.ค.- คดีสะเทือนขวัญฆ่าเผาอำพราง 2 นายจ้างร้านซ่อมท่อสูบน้ำพรหมพิราม ล่าสุดจับผู้ก่อเหตุได้แล้วเป็นลูกจ้างวัย 61 ปี หนีซ่อนตัวบนต้นไม้สูง 3 เมตร อ้างถูกบ่ายเบี่ยงค่าแรง ตำรวจค้นประวัติพบคดีลักทรัพย์และเคยรักษาทางจิตเวช


กรณีตำรวจ สภ.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมแพทย์และชุดพิสูจน์หลักฐานร่วมชันสูตร 2 ศพ เจ้าของร้านซ่อมท่อสูบน้ำเป็นชายอายุ 61 ปี และหญิง อายุ 83 ปี ถูกฆ่าเผาอำพรางไว้ในอ่างปูนใส่น้ำภายในห้องน้ำของร้านที่บ้านทุ่งสาน หมู่ 15 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) รวมทั้งเร่งตามหาตัวลูกจ้างชายที่หายหน้าไป หลังจากมาทำงานได้ไม่นาน 

พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวลูกจ้างชายที่หายตัวไปได้แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา คือ นายประเสริฐ  บัวไพจิตร อายุ 61 ปี  และถูกนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.พรหมพิราม  โดยมี พ.ต.อ.นฤชา  สุวรรณลาภา รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สรกฤษณ์ น่วมด้วง ผกก.สภ.พรหมพิราม และ พ.ต.ท.ชูชีพ  พุ่มเฉี่ยว สารวัตร (สอบสวน) สภ.พรหมพิราม เจ้าของคดี ร่วมกันสอบปากคำถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เพราะเป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน เบื้องต้นในชั้นสอบสวนให้การรับสารภาพว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นสามีภรรยากันและเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ก่อนลงมือก่อเหตุได้นั่งดื่มเบียร์กับนายจ้างชายแล้วได้ทวงถามเรื่องค่าแรงที่ยังค้างอยู่ 2,500 บาท แต่ไม่ได้คำตอบ


นอกจากนี้ นายประเสริฐ ยังอ้างว่ายังถูกนายจ้างใช้ท่อแป๊บตี ทำให้เกิดความบันดาลโทสะและใช้ค้อนปอนด์ตีนายจ้างชายจนแน่นิ่ง ขณะที่ภรรยาของนายจ้างได้เข้ามาต่อว่าและถูกค้อนฟาดไปที่ศีรษะจนเสียชีวิตอีกคน จากนั้นนายประเสริฐได้นำร่างทั้งสองไปเผาอำพรางในห้องน้ำหลังร้าน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกลางทุ่งนาห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยปีนขึ้นไปซ่อนตัวบนต้นไม้ที่สูงจากพื้นกว่า 3 เมตร กระทั่งถูกจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายประเสริฐ ไปตรวจร่างกายหาสารต้องสงสัย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและอำพรางซ้อนเร้นศพ เนื่องจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายประเสริฐ เคยถูกจับกุมคดีชิงทรัพย์ที่จังหวัดเชียงรายและที่อุดรธานี รวมทั้งประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตที่จังหวัดอุดรธานี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง