วอชิงตัน 16 พ.ค.- หัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทโทรคมนาคมของจีนเตือนว่า คำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ให้อำนาจทางการขัดขวางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีข้อมูลหรือการสื่อสารที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอย่างไม่สามารถยอมรับได้ จะทำให้สหรัฐล้าหลังเรื่องเครือข่าย 5 จี (5G)
คำสั่งบริหารที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐระบุว่า เทคโนโลยีที่อยู่ในข่ายนี้คือเทคโนโลยีที่ออกแบบ พัฒนา ผลิต หรือจัดหาโดยบุคคลที่ปรปักษ์ต่างชาติเป็นเจ้าของ ควบคุม มีอำนาจตุลาการเหนือหรือสั่งการได้ แม้ไม่ได้ระบุชื่อหัวเว่ยโดยตรง แต่สหรัฐกล่าวหาหัวเว่ยมาตลอดว่า ใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน อีกทั้งยังกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเพราะอาจถูกทางการจีนใช้เป็นเครื่องมือจารกรรม
หัวเว่ยส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐในวันนี้ว่า การจำกัดไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจในสหรัฐไม่ทำให้สหรัฐปลอดภัยหรือแข็งแกร่งขึ้น แต่กลับทำให้สหรัฐถูกบีบให้ต้องเลือกทางเลือกที่ด้อยกว่าแต่แพงกว่า เป็นเหตุให้สหรัฐล้าหลังเรื่องการวางเครือข่าย 5 จี ส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและบริษัทอเมริกันในที่สุด นอกจากนี้การจำกัดอย่างไร้เหตุผลถือเป็นการละเมิดสิทธิของหัวเว่ยและจะมีปัญหาทางกฎหมายร้ายแรงอื่น ๆ ติดตามมา โฆษกหัวเว่ยเผยกับซีเอ็นบีซีว่า หัวเว่ยเป็นเจ้าตลาด 5 จี หัวเว่ยพร้อมและยินดีร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐหามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการรับรองความปลอดภัยของอุปกรณ์บริษัท
ผู้เชี่ยวชาญเคยบอกกับซีเอ็นบีซีว่า สหรัฐอาจใช้อุปกรณ์ของบริษัทอื่น เช่น โนเกีย อีริคสัน ยังไม่ชัดเจนว่าคำสั่งบริหารของทรัมป์จะกระทบหัวเว่ยอย่างไร เพราะหัวเว่ยถูกจำกัดการเข้าถึงตลาดสหรัฐมาหลายปีแล้ว รายได้ที่มาจากทวีปอเมริกามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.6 ของรายได้ทั้งหมดเมื่อปีก่อน เพราะส่วนใหญ่มาจากลาตินอเมริกา ส่วนไตรมาสแรกของปีแรกรายได้ของหัวเว่ยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน.-สำนักข่าวไทย