แฟนพันธุ์แท้ “หัวเว่ย” ผิดหวังการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด
หัวเว่ยและแอปเปิลวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในประเทศจีนพร้อมกันในวันนี้ แต่มีแฟน ๆ ของหัวเว่ยไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเว่ยที่ราคาสูงถึง 2,800 ดอลลาร์
หัวเว่ยและแอปเปิลวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในประเทศจีนพร้อมกันในวันนี้ แต่มีแฟน ๆ ของหัวเว่ยไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเว่ยที่ราคาสูงถึง 2,800 ดอลลาร์
แคนเบอร์รา 20 มี.ค.- นาย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเดินทางเยือนออสเตรเลียในวันนี้ บ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มผ่อนคลายหลังจากมีความตึงเครียดมานานหลายปี รัฐบาลของนาย แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ใช้นโยบายปรับความสัมพันธ์ จึงได้เชิญนาย หวัง อี้ เดินทางไปเยือน กรุงแคนเบอร์รา โดยวันนี้เขาได้พบหารือกับนาง เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้เปิดเผยว่า มีการหารือประเด็นต่างๆ เพื่อปรับความเข้าใจกัน ทางออสเตรเลียได้แสดงความกังวลถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน ทั้งในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทิเบต และฮ่องกง ส่วนด้านการค้านั้น ออสเตรเลียกำลังพิจารณายกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดใช้กับสินค้าจีน ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและจีนมีความตึงเครียดอย่างรุนแรงตั้งแต่ปี 2561 เมื่อรัฐบาลชุดที่แล้วของออสเตรเลีย ห้ามบริษัทหัวเว่ยของจีน จำหน่ายอุปกรณ์เครือข่าย 5G ในประเทศ และยังตำหนิจีนเรื่องโควิด-19 เรียกร้องให้เปิดสืบสวนอย่างอิสระเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาด ขณะที่จีนก็ออกมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้าของออสเตรเลีย การเดินทางเยือนออสเตรเลียของนาย หวังอี้ เป็นการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนครั้งแรกในรอบ 7 ปี รัฐบาลออสเตรเลียยังเปิดเผยด้วยว่า ได้เชิญให้นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเยือนออสเตรเลียด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นช่วงเวลาใด.-812(814).-สำนักข่าวไทย
จีนขยายคำสั่งห้ามในหน่วยงานและบริษัทของรัฐบาลทั่วประเทศ ใช้ไอโฟน-ซัมซุง พร้อมสั่งให้พนักงานเริ่มใช้อุปกรณ์สื่อสารของแบรนด์ท้องถิ่น ทำให้เกิดความนิยมของแบรนด์ หัวเว่ย เพิ่มขึ้น
ซิดนีย์ 19 ธ.ค.- นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียจะเยือนจีนในวันอังคารนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ออสเตรเลียส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปเยือนจีน หลังจากความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงตั้งแต่ปี 2561 นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียแถลงว่า นางหว่อง วัย 54 ปี จะเยือนจีนเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีกำหนดพบกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ออสเตรเลียต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพกับจีน จะร่วมมือกับจีนในจุดที่สามารถทำได้ จะแสดงความไม่เห็นด้วยในจุดที่ต้องทำและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ ออสเตรเลียส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งหลังสุดในปี 2561 สมัยรัฐบาลสกอตต์ มอร์ริสัน เพราะหลังจากนั้นความสัมพันธ์ที่เคยดีเยี่ยมได้เสื่อมถอยลงอย่างหนัก เนื่องจากมีข้อขัดแย้งกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่จีนแผ่อิทธิพลในต่างประเทศ ละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ฮ่องกงและทิเบต ขณะที่จีนไม่พอใจเรื่องที่ออสเตรเลียห้ามหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีนเข้าร่วมในบริการ 5 จีของออสเตรเลีย และเรื่องที่ออสเตรเลียเรียกร้องให้สอบสวนหาต้นตอโรคโควิด-19 จีนตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการลงโทษสินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย และระงับการพบปะของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีอัลบาเนซีพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนระหว่างการประชุมจี 20 ที่บาหลีในเดือนพฤศจิกายน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของออสเตรเลีย ขณะที่ออสเตรเลียส่งออกสินค้าสำคัญอย่างแร่ธาตุและโลหะที่ช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เสนอร่างกฎหมายลงโทษหัวเว่ย เทคโนโลยี และบริษัทเทคโนโลยี 5 จี อื่น ๆ ของจีน ด้วยการจำกัดการเข้าถึงธนาคารของสหรัฐ
วอชิงตัน 26 พ.ย.- สหรัฐประกาศห้ามนำเข้าหรือจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อว่ามีความเสี่ยงอย่างไม่สามารถยอมรับได้ต่อความมั่นคงแห่งชาติ ครอบคลุมอุปกรณ์ของบริษัทจีนหลายแห่ง รวมทั้งหัวเว่ย เทคโนโลยีและแซดทีอี (ZTE) คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารแห่งชาติของสหรัฐหรือเอฟซีซี (FCC) ที่มีสมาชิก 5 คนเผยเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า เอฟซีซีมีมติเป็นเอกฉันท์รับรองระเบียบใหม่ที่ห้ามการนำเข้าหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีบางอย่างที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐ เจสสิกา โรเซนวอร์เซล ประธานเอฟซีซีจากพรรคเดโมแครตระบุในแถลงการณ์ว่า เอฟซีซีมุ่งมั่นปกป้องความมั่นคงแห่งชาติด้วยการสร้างความมั่นใจว่า อุปกรณ์การสื่อสารที่ไม่น่าเชื่อถือจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานภายในพรมแดนสหรัฐ ขณะที่นายเบรนดัน คารร์ กรรมการเอฟซีซีจากพรรครีพับลิกันทวีตว่า มติเอกฉันท์นี้เป็นการแสดงออกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งเอฟซีซีว่า เอฟซีซีลงมติห้ามการใช้อุปกรณ์สื่อสารใหม่โดยคำนึงถึงความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ผลของมตินี้ทำให้อุปกรณ์ใหม่ของหัวเว่ยและแซดทีอีไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานในสหรัฐ ส่วนอุปกรณ์ใหม่ของต้าหัว, ฮิกวิชัน และไฮเทราจะได้รับอนุญาตให้ใช้งานในสหรัฐต่อเมื่อรับรองกับเอฟซีซีว่า อุปกรณ์จะไม่ถูกนำไปใช้งานโดยมีจุดประสงค์ด้านความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงของสถานที่รัฐบาล และความมั่นคงแห่งชาติอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย
นูซา ดัว 15 พ.ย.- ผู้นำออสเตรเลียและจีนประชุมสุดยอดอย่างเป็นทางการวันนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี โดยคาดหวังว่าจะช่วยยุติความเป็นอริต่อกันมานานหลายปีที่กระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าและทำให้การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกระงับ นายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี ของออสเตรเลียกล่าวก่อนเริ่มการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ที่บาหลีว่า ยินดีอย่างยิ่งที่มีการหารือกันในวันนี้ เขายอมรับว่าออสเตรเลียและจีนมีความแตกต่างกัน ขอยืนยันว่าออสเตรเลียจะปกป้องคุณค่าของประเทศ แต่ก็ยินดีที่มีโอกาสได้หารือกับจีน เพราะเป็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีความสำคัญ ด้านประธานาธิบดีสีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นในอดีตของ 2 ประเทศเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม จึงควรรักษาและพัฒนาให้สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ การหารือเสร็จสิ้นหลังดำเนินไปนาน 32 นาที รัฐบาลออสเตรเลียไม่ได้คาดหมายว่า การหารือวันนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศดีขึ้น เพราะมองว่าลำพังการหารือแบบพบหน้ากันครั้งแรกในรอบหลายปีก็ถือเป็นชัยชนะในตัวเองแล้ว ออสเตรเลียและจีนไม่มีการหารือระดับผู้นำอย่างเป็นทางการมานานกว่า 5 ปีแล้ว มีเพียงการสนทนากันเป็นเวลาสั้น ๆ ระหว่างการประชุมสุดยอดจี 20 ที่ญี่ปุ่นในปี 2562 ออสเตรเลียทำให้จีนไม่พอใจหลายเรื่อง เช่น ห้ามบริษัทหัวเว่ยของจีนทำสัญญาวางระบบ 5 จี (5G) ในออสเตรเลีย เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอิสระหาต้นตอของโควิด […]
รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย พบหน้ารัฐมนตรีกลาโหมจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีในวันนี้ โดยกล่าวถึงการหารือกันว่า เป็นก้าวสำคัญก้าวแรกหลังจากความสัมพันธ์ตึงเครียดมาระยะหนึ่ง
แคนาดาจะห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย เทคโนโลยี และแซดทีอี คอร์ป (ZTE) ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของจีน ในการวางเครือข่าย 5จี (5G) ในแคนาดา เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ
ปักกิ่ง 27 ก.ย.- สื่อทางการจีนระบุว่า การปล่อยตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ยเทคโนโลยี เป็นโอกาสที่จีนจะปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับสหรัฐและแคนาดา แต่เตือนว่าถ้อยคำทางการเมืองที่เป็นพิษอาจทำให้เสียบรรยากาศได้ บทบรรณาธิการของโกลบอลไทมส์ หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า การที่นางเมิ่งได้กลับจีนเป็นสัญญาณว่าความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการค้าได้ผ่อนคลายลงแล้ว แต่กลุ่มต่อต้านจีนยังคงส่งเสียงรบกวนอยู่ เช่น สว.มาร์โก รูบิโอของพรรครีพับลิกันที่วิจารณ์เรื่องนี้ ด้านบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชนาเดลีของทางการจีนระบุว่า ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ และความสัมพันธ์จีน-แคนาดาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ปรับความสัมพันธ์หรือไม่ ขึ้นกับรัฐบาลสหรัฐและแคนาดาว่ายินดีเรียนรู้จากแผนการไร้ความยั้งคิดนี้หรือไม่ นางเมิ่ง วัย 49 ปี บุตรสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เดินทางกลับถึงจีนเมื่อวันเสาร์ ปิดฉากการต่อสู้เรื่องจะถูกแคนาดาเนรเทศไปสหรัฐนาน 3 ปี หลังจากทำข้อตกลงกับอัยการสหรัฐเมื่อวันศุกร์ให้ยุติการสอบสวนเธอในคดีฉ้อโกง ด้านนายไมเคิล คอร์วิกและนายไมเคิล สเปเวอร์ ชายแคนาดา 2 คนที่ถูกจีนควบคุมตัวไว้นานกว่า 1,000 วันกลับถึงบ้านเช่นกัน ทั้งคู่ถูกจีนควบคุมตัวไม่กี่วันหลังจากแคนาดาควบคุมตัวนางเมิ่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 และได้รับการปล่อยตัวไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัว โกลบอลไทมส์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ทั้งคู่รับสารภาพว่าทำความผิดในจีน และได้รับการประกันตัวด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ก่อนเดินทางออกจากจีน.-สำนักข่าวไทย
นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ “หัวเว่ย” บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน และลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท เดินทางออกจากแคนาดาเพื่อกลับบ้านในประเทศจีนแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากบรรลุข้อตกลงกับอัยการสหรัฐเพื่อยุติคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฉ้อโกงจากการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าเพื่อลักลอบทำธุรกิจกับอิหร่าน
ศาลจีนตัดสินวันนี้ว่านายไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดา มีความผิดฐานจารกรรมความลับและลงโทษจำคุกเขาเป็นเวลา 11 ปี ซึ่งการตัดสินคดีในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามของจีนในการกดดันรัฐบาลแคนาดากรณีการจับกุมและแผนการส่งตัวผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนไปยังสหรัฐ