กรมการแพทย์ 13 พ.ค.-แพทย์ผิวหนังเตือนผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหน้าขาว ไม่ระบุเลขจดแจ้ง ผสมสารอันตราย โดยเฉพาะสารปรอท เพราะอาจเกิดการแพ้ เกิดฝ้าถาวร มีผลต่อระบบประสาท ตับไต และมีความเสี่ยงจะทำให้ทารกพิการได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสนอข่าวเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.)บุกแหล่งครีมกวนเองในพื้นที่จ.หนองคาย หรือผู้ผลิต“ครีมหมี ปริญญา”ที่ผู้บริโภคส่วนหนึ่งหลงเชื่อซื้อมาใช้แล้วได้ รับความเสียหาย แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่ามีแหล่งผลิตครีมนี้อยู่อีกมาก ในเขตพื้นที่ภาคอีสานทำให้มีผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้ครีมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่ากระแสความนิยมของการมีผิวขาวเพิ่มขึ้นตลอด จนกระแสการขายเครื่องสำอาง ทั้งขายตรงและเครื่องสำอางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น มีผู้เข้าสู่ตลาดนี้ได้ง่ายและมากขึ้นทำให้มีการลักลอบใช้สารปรอทในเครื่องสำอางเพื่อรักษาฝ้า จุดด่างดำ หรือทำให้ผิวขาวกลับมาอีกระลอกหนึ่ง นับเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งเพราะพิษของสารปรอทนั้น มีผลกระทบหลายระบบของร่างกาย สารปรอทไม่ใช่สารอันตรายตัวใหม่ที่เพิ่งใช้กันในสังคมไทย ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา เคยเป็นสารอันตรายอันดับ 1ของเครื่องสำอางที่ใช้ในไทยมาก่อนเช่นกัน โดยนิยมผสมในครีมที่เรียกกันว่า “ครีมไข่มุก” อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐได้เข้มงวดมากขึ้น ครีมปรอทเหล่านี้จึงลดความนิยมลงและเป็นที่รู้จักในวงแคบหรือในตลาดใต้ดิน
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ซึ่งตรวจสารอันตรายในเครื่องสำอางจากที่ผู้ป่วยส่งตรวจและจากที่ได้จากการซื้อขายผ่านตลาดนัดและตลาดออนไลน์ ระหว่างปี 2561-2562 จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น (ส่วนใหญ่จะเรียกว่า “ครีมหน้าขาว”) มีสารอันตรายถึงร้อยละ 25 นั่นคือในทุกๆ 4 ตลับจะพบสารอันตราย 1 ตลับเลยทีเดียว โดยสารปรอทเป็นสารอันตรายที่พบบ่อยที่สุด รองลงมาคือ สารไฮโดรควิโนน และกรดวิตามินเอ
พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พิษที่สำคัญของสารปรอทต่อร่างกาย มีดังนี้
1.พิษต่อผิวหนัง แม้ว่าสารปรอทจะมีผลทำให้เม็ดสีลดลง แต่พบว่าอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หากใช้ในระยะยาว จะทำให้ผิวบางลง เกิดจุดดำที่ผิวเพิ่มขึ้น เกิดฝ้าถาวร หรือในบางจุดจะทำให้เกิดผิวด่างถาวร
2.พิษต่อระบบประสาท ทำให้มีอาการสั่น ปลายประสาทอักเสบ การทรงตัวผิดปกติ ชักกระตุก ซึมเศร้าหรือเกิดประสาทหลอนได้
3.พิษต่อตับและไต ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไตอักเสบได้ในระยะยาว
4.พิษต่อระบบเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
5.หากใช้ระหว่างตั้งครรภ์ สารปรอทจะดูดซึมสู่ทารก และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ทารกสมองพิการและปัญญาอ่อนได้
จากการศึกษาของสถาบันโรคผิวหนังดังกล่าวข้างต้น จะเห็นว่าผู้บริโภคมีความเสี่ยงจะได้รับอันตรายจากสารปรอทในเครื่องสำอางค่อนข้างสูงจึงขอให้พึงระวังในการใช้เครื่องสำอางจากแหล่งที่เชื่อถือได้มากที่สุด หากไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ สามารถส่งผลิตภัณฑ์มาขอรับการตรวจสอบสารอันตรายเบื้องต้นได้ที่สถาบันโรคผิวหนัง(โครงการตรวจสารอันตรายในเครื่องสำอาง) โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย