กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-โฆษก ก.ต่างประเทศ เผยหลังเอกอัครราชทูต หรืออุปทูต รักษาการสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ พบรองปลัด ได้รับทราบความห่วงกังวลต่อการปรากฏตัวของผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่ สน.ปทุมวัน ที่ นายธนาธร ไปรับทราบข้อกล่าวหา เป็นการกระทำเกินเลยภารกิจทางการทูต
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่ได้มีการสอบถามจากสื่อมวลชนเรื่องการเชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจปทุมวัน มาพบหารือที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น ในวันที่ 10-11 เมษายน 2562 กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 เข้าพบรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่รับผิดชอบภารกิจทวิภาคีที่กระทรวงการต่างประเทศ
น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในการพบหารือกับเอกอัครราชทูตหรืออุปทูตรักษาการสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ดังกล่าว รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความผิดหวังและห่วงกังวลต่อการปรากฏตัวของผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่สถานีตำรวจปทุมวันในช่วงที่นายธนาธรไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเฉพาะการทำให้เกิดภาพที่ถูกตีความได้ว่าเป็นการไปให้กำลังใจแก่นายธนาธรและเป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในบริบททางการเมืองไทยในปัจจุบัน การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกินเลยภารกิจทางการทูต เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของไทยและละเมิดหลักปฏิบัติและพันธกรณีทางการทูต ภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ. 1961 มาตรา 41 ดังนั้น จึงขอให้สถานเอกอัครราชทูตดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
น.ส.บุษฎี กล่าวว่า เอกอัครราชทูตและอุปทูตที่มาพบประกอบด้วย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ เบลเยียม และสหภาพยุโรป โดยในวันนี้มีผู้แทนสถานทูตมาพบ 9 ประเทศ และพรุ่งนี้ 2 ประเทศ.-สำนักข่าวไทย