จับชาสมุนไพรจีนอ้างรักษากระดูก ที่แท้ปนเปื้อนสารอันตราย

สธ. 5 เม.ย.-อย. ร่วม ตำรวจ ปคบ.จับกุมตรวจสอบ ชาสมุนไพรจีนบำรุงกระดูก อ้างนำเข้าจากจีน ที่แท้มาจากเมียนมา  พบปนเปื้อนยาอันตราย 4 ชนิด ทั้งแก้ปวด สเตียรอยด์ ยาแก้แพ้และยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ  ทานไปเสี่ยง กระเพาะทะลุ หัวใจวาย


นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ และภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิร์ธีฃัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำเกี่ยวกับผู้บริโภค แถลงข่าวการทลายแหล่งนำเข้า สมุนไพรจีนบำรุงกระดูก ว่าจากการจับกุม และตรวจสอบสมุนไพรจีนบำรุงกระดูก พบว่ามีสารปนเปื้อนสารอันตราย และยา ในยาสมุนไพรนี้ถึง 4 ชนิด ประกอบด้วย 1.กลุ่มยาแก้ปวด ทั้งไดโคลฟีแนค,ไพร็อกซิแคม,ไอบูโพรเฟน ,พาราเซตามอล 2.กลุ่มยาสเตียรอยด์ 3.กลุ่มยาแก้แพ้ 4.กลุ่มยารักษาอาการเสื่อม สมรรถภาพทางเพศ 


ขณะเดียวกันพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่ได้รับการรับรองจาก อย.ทำให้การสืบหาที่มายาก หลังจากเมื่อ 1 ปีก่อนมีการลักลอบจำหน่ายในย่านเยาวราช แต่ครั้งนี้มีการจำหน่ายในเฟซบุ๊กอ้างว่า ดื่มชา หรือสมุนไพรนี้เข้าไปจะช่วย รักษาโรคกระดูก ปวดเข่า  ไขข้อเสื่อม และมีการวางจำหน่าย  6 แห่ง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ,นนทบุรี ,ราชบุรี และจังหวัดเชียงราย 3 แห่ง


นพ.พูลลาภ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบพบว่า แหล่งผลิตชาดังกล่าวมาจากประเทศเมียนมาและมีฉลากเป็นภาษจีน ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ ต้องเป็นของดี ประกอบขายในราคากล่องละ 1,000 บาท  ทำให้มูลค่าสินค้าที่จับกุมได้มูลค่าสูงถึง 500,000 บาท  ซึ่งอยากให้ผู้บริโภคฉุกคิด  หากเป็นสินค้านำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และปลอดภัย ต้องได้รับการรับรองจาก อย.มีเลขสารระบบ ตรวจสอบได้ ว่า เป็นสินค้าประเภทใด นำเข้าจากบริษัทใดจะไม่มีทางใช้ฉลากภาษาต่างประเทศทั้งหมด อีกทั้ง ชา หรือ สินค้าที่เป็นอาหาร ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ยา ทานแล้วไม่สามารถรักษาโรคได้ 

ด้าน ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า การรับประทานชาสมุนไพรนี้เป็นเวลานาน จะมีผลกับระบบทางเดินอาหาร การรับประทานยาแก้ปวดพร่ำเพรื่อก็เกิดอันตราย คลื่นไส้ อาเจียน เกิดแผลในกระเพาะ และยังมีผลกับระบบหัวใจได้อีกด้วย กลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศก็จะทำให้เกิดอันตรายกับระบบโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน สำหรับโทษในการจำหน่ายสินค้าดังกล่าว มีตั้งแต่แสดงฉลากไม่ถูกตเอง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท โทษฐานปนเปื้อนสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์  โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี  หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท ,โทษโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ โทษโฆษณาอันเป็นเท็จ จำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง