ศธ.26 มี.ค.-เลขาฯ กพฐ.เผยจบลงด้วยดี กรณีรถตู้ 2 คันของ รร.เตรียมอุดมฯ ชี้สมาคมได้รับบริจาคจริงไม่เกี่ยว ‘แป๊ะเจี๊ยะ’ แลกที่เรียน ด้าน
รอง ผอ.สพม.1 เผยเป็นสิทธิชี้แจง รอนิติกรตรวจสอบอีกครั้ง
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ทางตัวแทนสมาคมผู้ปกครองและครูเตรียมอุดมศึกษา 2 คนได้มาพบตนเพื่อชี้แจงกรณีพบรถตู้ 2 คันจอดทิ้งไว้ภายในโรงจอดรถโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นเวลานาน 2 ปีโดยไม่ทราบที่มาที่ไปและรถมีทะเบียน ซึ่งทางสมาคมฯยืนยันว่ารถทั้ง 2 คันเป็นทรัพย์สินของทางสมาคมผู้ปกครองและครูเตรียมอุดมศึกษา โดยผู้ปกครองบริจาคผ่านทางสมาคมฯ และมีกระบวนการรับอย่างถูกต้อง โดยเขียนวัตถุประสงค์ที่มาของรายได้ของทรัพย์สิน ก็คือการบริจาค และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับนักเรียน ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังแต่อย่างใด
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนและสำนักงานคณะ กรรมการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต1 กรุงเทพมหานคร (สพม.เขต 1 กทม.)ได้ส่งสรุปรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว มี รายชื่อผู้บริจาคชัดเจนว่าเป็นใคร แต่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ ดังนั้น เรื่องนี้จบลงด้วยดีไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพียงแต่ต้องสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง ส่วนที่ทำไมทางสมาคมฯไม่ทำการจดทะเบียนรถให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบนั้น ตนไม่ทราบแต่ทางสมาคมฯยืนยันว่าเตรียมการจะโอนรถให้กับทางโรงเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าจบด้วยดี
“รถตู้ 2 คันนี้รับมอบกันมานานแล้ว ผู้ที่มอบให้ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแลกกับการฝากเด็ก ส่วนที่มีภาพอดีตผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมฯ เป็นผู้รับมอบรถตู้นั้น ก็เป็นธรรมดาเพราะในสมาคมฯ ก็มี ผอ.โรงเรียนมีครูอยู่ในสมาคมด้วยก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ในทางกฎหมายยังดำเนินการไม่เสร็จ จากที่อ่านรายงานก็ไม่พบว่าจะมีประเด็นจะเกิดการทำผิดอะไรในเรื่องการบริจาค แต่เบื้องหลังก็ไม่อาจรู้ได้พูดไปอาจไปหมิ่นประมาทเขา อาจจะเป็นศิษย์เก่าที่อยากบริจาคให้โรงเรียนก็ได้ ซึ่งโรงเรียนเตรียมอุดมฯแม้จะเป็นโรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศแต่ก็รับงบประมาณรายหัวเท่ากับโรงเรียนรัฐทั่วไปและสามารถขับเคลื่อนและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ด้วยมีสมาคมฯที่เข้มแข็งรวมถึงศิษย์เก่าที่เข้มแข็ง มาดูแลรุ่นน้อง เรื่องนี้จบด้วยดี”นายบุญรักษ์ กล่าว
ด้านนายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)เขต1กทม. กล่าวว่า การชี้แจงของสมาคมผู้ปกครองและครูฯ เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ โดยขณะนี้ตนได้ส่งสรุปรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทางโรงเรียนสรุปมาให้ทางนิติกร สพม.เขต 1 กทม.ไปตรวจสอบอีกครั้ง กระบวนการจากนี้ต้องรอนิติกรสรุปและให้คำแนะนำว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนกรณีที่ตนบอกว่ารถตู้ทั้ง 2 คันอาจเข้าข่ายไม่ถูกกฎหมายนั้น ก็เป็นการสรุปจากข้อมูล เพราะรถที่จอดทิ้งไว้ 2 ปีก็ไม่สามารถนำไปขับบนถนนได้ กระทั่งคนขับรถก็ไม่กล้าขับ ณ วันนี้จึงถือว่าเป็นรถเถื่อน ซึ่งในเมื่อมีเวลา 2 ปีเหตุใดจึงไม่ได้ดำเนินการทำเอกสารให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามไม่ได้เข้าข้างใครและก็ทำงานตามหน้าที่ เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะติดตามการรับสมัครการรับนักเรียนของ สพม.เขต 1 กทม. ปีการศึกษา 2562 ก็ได้กำกับติดตามให้การรับนักเรียนเป็นไปตามนโยบายของ สพฐ.มาตรการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะต้องไม่มีการเอื้อประโยชน์ ซึ่งเมื่อพบว่ามีประเด็นนี้ก็ได้แจ้งให้ กับตัวแทน ป.ป.ช.ที่มาร่วมสังเกตการณ์รับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รับทราบ รวมถึงยังได้แจ้งต่อผู้แทนสมาคมฯที่มาร่วมด้วยแต่ในวันนั้นผู้แทนสมาคมฯไม่ได้ชี้แจงอะไรบอกเพียงว่ากำลังดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย