สำนักงาน กกต. 27 ก.พ.- “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ยื่นทวงถาม กกต.ยุบพรรคพลังประชารัฐ ขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับพรรคไทยรักษาชาติ ขีดเส้นตาม 1 อาทิตย์ไม่คืบ ขู่ดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต.
เมื่อเวลา 9.45 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทวงถามความคืบหน้าขอให้ กกต.ตรวจสอบยุบพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิวัติผู้ซึ่งเป็นคนล้มล้างรัฐธรรมนูญ แต่กลับเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ว่า ได้มายื่นเรื่องตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ใช้เวลา 9 วันแล้ว แต่กกต.ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ซึ่งกรณีของพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจมา เป็นการไม่เลื่อมใส และเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งข้อมูลมีความชัดเจน และง่ายในการแสวงหาข้อมูลมากกว่ากรณีของพรรคไทยรักษาชาติ แต่กลับใช้เวลามากกว่า
“ผมเห็นว่า กกต.ควรจะมีมาตรฐานเดียวกันกับพรรคไทยรักษาชาติ ในการตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งควรจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 5 วันเหมือนกัน แต่ขณะนี้ผ่านมา 9 วันแล้ว อย่างไรก็ตามผมจะให้เวลากกต.อีก 1 อาทิตย์ หากยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต. ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ขึ้นเวทีดีเบต ให้ความเห็นว่าเป็นเพียงการประดิษฐ์ถ้อยคำเท่านั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การดีเบตกัน เพื่อที่จะให้ประชาชนเลือกผู้ที่เสนอตัวมารับใช้ประชาชนได้ถูกต้อง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ กลับหลีกเลี่ยง และยังไม่ทำตัวให้เป็นไปตามกรอบของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ควรบอกความจริงว่ากลัวถูกพรรคการเมืองยำจนเละ ไม่มาเพราะกลัวตน
“พล.อ.ประยุทธ์ ท่านไม่ต้องมาประดิษฐ์คำ ที่ไม่มาดีเบตต้องเรียกว่าหนีนั่นแหละ อย่ามาบอกว่าไม่จำเป็นจะต้องขึ้นเวทีประชันนโยบาย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันถึงกระบวนการได้มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 250 คน ว่าเป็นได้ด้วยความถูกต้อง เพราะทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง มีสิทธิ์เห็นต่างได้นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ใช่ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด แต่ว่าเขาไม่ใช้สิทธิ์นั้น อย่างไรก็ตาม อาจจะมีบางคนที่เห็นต่างในการโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่เชื่อว่าเป็นส่วนน้อย เพื่อเป็นกระบวนการสร้างภาพเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย