ชาวประมง 22 จังหวัด ลุ้น ครม.จ่ายชดเชย

กรุงเทพฯ 12 ก.พ. – สมาคมประมง 22 จังหวัดชายทะเล หวัง ครม.พิจารณาจ่ายชดเชยเรือถูกตรึงพังงาและบันทึกในฐานข้อมูลของกรมเจ้าท่า ตามมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตั้งแต่ที่ คสช.ออกคำสั่งปี 2558 เนื่องจากต้องการเงินทุนไปประกอบอาชีพอื่น


นายบุญธรรม เจริญกล้า นายกสมาคมชาวประมงอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จากการที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนมีข้อสรุปจะเร่งช่วยเหลือชาวประมงกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่ง คสช. จากมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตามคำสั่งคสช. ที่ 10/2558 ที่ 42/2558 ที่ 53/2559 และที่ 22/2560 ซึ่งเป็นเรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำประมงจากกรมประมง รวมทั้งบันทึกในระบบฐานข้อมูลของกรมเจ้าท่าไม่ให้ออกเรือมาเป็นเวลาเกือบ 4 ปี หรือที่เรียกกลุ่มเรือขาว-แดงเป็นกลุ่มแรก 305 ลำนั้น ชาวประมงต้องการให้ ครม.เร่งอนุมัติจ่ายชดเชยเร็วที่สุด เพื่อจะได้นำไปเป็นทุนประกอบอาชีพอื่น 

ทั้งนี้ ยอมรับแนวทางของคณะอนุกรรมการฯ ที่จะจ่ายค่าชดเชยไม่เกินร้อยละ 50 ของราคากลางปี 2558 แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ๆ แรกร้อยละ 30 ซึ่งจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำลายเรือตามเงื่อนไข จากนั้นจะได้รับที่เหลืออีกร้อยละ 70 หากสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนชาวประมงกลุ่มเรือขาว-แดงจะไม่เคลื่อนไหวมาเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตามที่กำหนดไว้


นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวว่า หากไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมครม.วันนี้ (12 ก.พ.) ยังคงคาดหวังให้คณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งชาวประมงกลุ่มเรือขาว-แดงมั่นใจในการทำงานของนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แม้เพิ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่จากการติดตามทราบว่านายกฤษฎา เร่งรัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ และคณะทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรื่องที่ค้างตั้งแต่ปี 2558 ได้ข้อสรุปในระยะเวลาอันสั้นว่ากลุ่มเรือขาว-แดงจะได้รับการช่วยเหลือเป็นกลุ่มแรก โดยทราบรายละเอียดจากนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ว่า อยู่ระหว่างจัดเตรียมรายละเอียดวิธีการเบิกจ่ายค่าชดเชย เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชา โดยจะต้องผ่านการพิจารณาคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณเป็นประธาน จากนั้นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติงบประมาณ ซึ่งชาวประมง 22 จังหวัดชายทะเลที่เดือดร้อนจากมาตรการของรัฐหวังว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง