กรุงเทพฯ 10 ก.พ.-นักวิชาการคาด เงินบาทที่แข็งค่าอาจพลิกกลับเป็นอ่อนค่าลงจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้ภาคการลงทุน กระแสเงินทุนระยะสั้นไหลเข้า อาจจะชะลอตัวลง และมีโอกาสมากขึ้นที่สถานการณ์ค่าเงินบาทอาจพลิกกลับจาก “แข็งค่า” เป็นทยอย “อ่อนค่า” ลงได้จากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นบั่นทอนความเชื่อมั่นนักลงทุน แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะมีปัจจัยบวกต่าง ๆ อยู่ แต่จะถูกหักล้างด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สร้างบรรยากาศประชาธิปไตยหรือไม่ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมในการเลือกตั้ง
สำหรับปัจจัยบวกที่มีอยู่ในขณะนี้ได้แก่ พื้นฐานทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างแข่งขันกันนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน แต่การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้หากไม่มีแผนการในการปฏิรูประเทศเพื่อนำไปสู่ความปรองดองและลดปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง ปัจจัยบวกอีกประกาศคือ การประกาศวันเลือกตั้งชัดเจนทำให้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 15 เดือน กระแสเม็ดเงินอาจยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องหากความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลง
นอกจากนี้ ยังมีจัยบวกจากการที่ MSCI เล็งปรับเกณฑ์นำเอา ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR) ที่นักลงทุนต่างชาติถือมาร่วมคำนวณในดัชนีด้วย จะช่วยหนุนเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในเอ็มเอสซีไอ (MSCI) เพิ่ม เป็นผลให้กองทุนหรือนักลงทุนสถาบันเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำให้ระบอบประชาธิปไตยไทยมีความมั่นคงและการเมืองไทยมีเสถียรภาพนั้น เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการที่ไทยจะเกิดโอกาสการลงทุนภาคเอกชน ท่ามกลางผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนที่อาจรุนแรงขึ้นในเดือนมีนาคม ผู้ผลิตและผู้ส่งออกในจีนที่ต้องเผชิญกับกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียนและประเทศไทย สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศไทยได้รับโอกาสเป็นฐานการผลิตใหม่ของจีนในบางอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่จีนจะได้รับผลกระทบทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมยางล้อ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
และยังเกิดโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง ยานยนต์ ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาเพื่อทดแทนสินค้าจากจีนที่เผชิญกับกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ เกิดโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรมากขึ้นเพื่อทดแทนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากสหรัฐฯไปจีน มีแนวโน้มสหรัฐอเมริกาจะระบายถั่วเหลืองส่วนเกินจากการถูกตั้งกำแพงภาษีจากจีน ทำให้การผลิตอาหารสัตว์ในไทยมีต้นทุนวัตถุดิบถั่วเหลืองถูกลง นอกจากนี้สินค้าและวัตถุดิบหลายตัวอาจถูกทุ่มตลาดและราคาปรับตัวลดลง ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าบางอย่างได้ถูกลง ผู้ผลิตมีต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลงด้วย อย่างไรก็ตาม ผลบวกจากสงครามการค้าจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบทางลบจากความเชื่อมโยงด้านห่วงโซ่อุปทานได้ทั้งหมดแต่จะช่วยบรรเทาผลกระทบทางลบจากสงครามทางการค้าได้บางส่วน-สำนักข่าวไทย