เสนอนโยบายเร่งด่วนแก้ปัญหาส่งออกทรุดตัว
อดีตกรรมการแบงก์ชาติเสนอนโยบายเร่งด่วนแก้ปัญหาส่งออกทรุดตัว แนวทางบริหารอัตราแลกเปลี่ยน
อดีตกรรมการแบงก์ชาติเสนอนโยบายเร่งด่วนแก้ปัญหาส่งออกทรุดตัว แนวทางบริหารอัตราแลกเปลี่ยน
นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ระบุค่าแรงขึ้น 5-6 บาท ไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น อย่าเป็นข้ออ้างขึ้นราคา
นักวิชาการคาด เงินบาทที่แข็งค่าอาจพลิกกลับเป็นอ่อนค่าลงจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง
นักวิชาการประเมินพายุปาปึกกระทบท่องเที่ยวและกิจกรรมเศรษฐกิจภาคใต้ระยะสั้น แนะเร่งฟื้นฟู
กรุงเทพฯ 14 ต.ค.-นักวิชาการเชื่อว่า พรบ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินผลกระทบของพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ต่อเศรษฐกิจและประชาชนว่า พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและมีเนื้อหาหลายส่วนอาจขัดขวางต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เพิ่มต้นทุนในการประกอบการ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการดำเนินการของภาคธุรกิจอีกด้วย นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ผลกระทบจะมีอย่างน้อย 9 ด้านหากไม่แก้ไขเนื้อหาที่จะมีปัญหา กฎหมายนี้แม้นจะมีความจำเป็นในการสร้างระบบความมั่นคงทางด้านไซเบอร์แต่กระบวนการในการร่างกฎหมายต้องให้เกิดการมีส่วนร่วมและต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตยรวมทั้งต้องสอดคล้องพลวัตของระบบสังคมและเศรษฐกิจในอนาคตที่ระบบเศรษฐกิจมีการเคลื่อนตัวสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้นตามลำดับ การมีกฎหมายที่กำลังบังคับใช้ใหม่แต่อยู่บนฐานคิดที่ล้าหลัง อยู่ภายใต้กรอบคิดความมั่นคงแบบเก่าๆและไม่เป็นประชาธิปไตยเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อสังคม ต่อระบบการดำเนินธุรกิจและระบบเศรษฐกิจ กฎหมายอาจจะนำมาสู่ความขัดแย้งอย่างกว้างขวางและไม่สอดคล้องกับโลกในปัจจุบันและอนาคต การมีกฎหมายหรือผู้ออกกฎหมายที่มุ่งไปที่มิติความมั่นคงมากเกินไปโดยไม่สนมิติทางเศรษฐกิจ มิติทางสังคม มิติทางด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยอย่างยิ่งต่อสังคมไทยในอนาคต สำหรับผลกระทบของกฎหมายมั่นคงด้านไซเบอร์ 9 ด้าน เช่น 1.กฎหมายฉบับนี้จะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเนื้อหาบางส่วนอาจขัดขวางต่อการขยายตัวเติบโตของเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม 2.เปิดโอกาสและช่องทางในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้โดยไม่มีการกำกับตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีพอ อำนาจของเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ กปช ใน มาตรา 46, 47, 48, 54, 55, 56, 57 มีความอ่อนไหวสูงต่อการใช้อำนาจรัฐละเมิดสิทธิประชาชนหรือองค์กรหรือกิจการธุรกิจต่างๆ และอำนาจบางอย่างที่ระบุไว้ในกฎหมายต้องผ่านคำสั่งศาลเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชนและองค์กรต่างๆรวมทั้งเกิดช่องทางหาผลประโยชน์ในทางที่มิชอบโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายและเกิดการทับซ้อนทางผลประโยชน์ได้ ควรมีการใช้อำนาจดุลยพินิจของเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ กปช และ เจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุด 3. โครงสร้างการบริหารขาดการมีส่วนร่วมและยังไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี เนื่องจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กปช […]
กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- นักวิชาการ ม.รังสิต ระบุ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง ไม่มีความจำเป็นที่ธปท.ต้องรีบปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงปลายปี นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงในไตรมาสสี่ จึงไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องรีบปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงปลายปี แม้นธนาคารกลางสหรัฐฯปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงเดือนธันวาคม ก็จะไม่มีผลต่อกระแสเงินไหลออกมากนัก ตลาดการเงินไทยยังมีความน่าสนใจในการลงทุน การมีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งก็ส่งผลให้ความมั่นใจของนักลงทุนเพิ่มขึ้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าหลังจากกระบวนการเจรจาข้อตกลงทางการค้าสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวม อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในระบบธนาคารและสถาบันการเงิน จึงทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ครัวเรือนไทยเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้น้อยลง จึงไปก่อหนี้นอกระบบมากขึ้น ครัวเรือนไทยกว่า 49% หรือ 10 ล้านครัวเรือนเป็นหนี้ หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบ และ ภาคธุรกิจก็มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้น แรงงานไทยที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาทต่อครัวเรือน เป็นหนี้ถึง 96-97% (มูลค่าเฉลี่ย 130,000 บาท) โดยเป็นหนี้นอกระบบ 53-54% และ 78-79% เคยผิดนัดชำระหนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้การผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นไปอีกและหนี้เสียในระบบสถาบันการเงินจะเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่ต้องตอบสนองนโยบายของรัฐในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและธุรกิจ SMEs ขณะนี้ยอดปรับโครงสร้างหนี้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประมาณ […]
กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-ม.รังสิตระบุบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นแนะไม่ควรรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงแนวโน้มเงินบาทว่า มีทิศทางแข็งค่าเพิ่มขึ้น รวมทั้งอาจเกิดการเก็งกำไรค่าเงินบาท ที่ยิ่งจะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปอีก โดยเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ยกเว้นดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งเงินทุนระยะสั้นเก็งกำไรไหลเข้าประเทศไทยในตลาดตราหนี้ของไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลจากการลุกลามของวิกฤติเศรษฐกิจและการดิ่งลงของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ประเทศไทยจึงไม่ควรรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพราะจะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก กระทบต่อภาคส่งออก ขณะที่ผลกระทบจากการขยายวงของสงครามทางการค้าจะทำให้ปริมาณการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสสี่ และคาดว่า สหรัฐจะมีการใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีและกีดกันการค้าต่อประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ไทย ต่อไปเพื่อลดการขาดดุลการค้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนวิกฤติค่าเงินและการชะลอตัวของเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย อาจลามไปที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะกระทบต่อภาคส่งออกของไทยไปอาเซียน ไทยส่งออกไปอินโดนีเซียประมาณ 4% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ ภูมิภาคอาเซียนเชื่อมโยงกันหมด เช่น สิงคโปร์มีสัดส่วนการส่งออกไปอินโดนีเซีย 8% ก็จะได้รับผลกระทบ และไทยพึ่งพาตลาดสิงคโปร์ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากวิกฤติค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ยังกระทบไทยค่อนข้างจำกัด ประเทศไทยเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด 45-47 พันล้านดอลลาร์ มีทุนสำรองระหว่างประเทศมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ มีหนี้สินต่างประเทศระยะสั้นไม่มาก อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานยังค่อนข้างต่ำ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของภาคธุรกิจแม้นเพิ่มขึ้นแต่ยังคงเป็นการกู้เงินในประเทศเป็นหลัก หากเกิดกระแสเงินไหลออกและต้องชำระหนี้ต่างประเทศ ไทยอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถรับมือได้ นายอนุสรณ์ […]
นักวิชาการ ม.รังสิตมองน้ำท่วม-สงครามการค้า-วิกฤติเศรษฐกิจตุรกี ฉุดเศรษฐกิจไตรมาส 3 โตต่ำกว่าร้อยละ 4
กรุงเทพฯ 13 ส.ค.- คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ระบุ สงครามการค้าจีน-สหรัฐ จะกระทบส่งออกไทยไตรมาส 4 ปีนี้ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เตือนว่า สงครามการค้าจีนสหรัฐจะกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก และจะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกไทยอย่างชัดเจนในไตรมาสสี่ปีนี้ โดยเฉพาะสินค้าขั้นกลาง เนื่องจากสหรัฐฯ จีนและประเทศต่างๆอาจหันมาผลิตสินค้าขั้นกลางเองภายในประเทศมากขึ้น ให้จับตาผลกระทบการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรหรือมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเกษตรหรืออาหารบางตัว ทิศทางของเศรษฐกิจโลกน่าจะเคลื่อนตัวสู่โครงสร้างกลุ่มบูรณาการ 3 ภูมิภาคมากขึ้น คือ เขตการค้าเสรีทวีปอเมริกา อียูและเอเชียตะวันออก นายอนุสรณ์ กล่าวว่า สงครามการค้าจีนสหรัฐจะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการบูรณาการมากขึ้นของเศรษฐกิจโลก แต่เป็นเรื่องชั่วคราวและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางของโลกาภิวัตน์ไร้พรมแดนได้ โดยในช่วงหนึ่งและสองทศวรรษข้างหน้านี้ ไทยรวมทั้งอาเซียนจะเป็นพื้นที่แห่งการช่วงชิงเข้ามามีบทบาท แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของสองมหาอำนาจ คือ จีนและสหรัฐอเมริกา ดังนั้นกุศโลบายในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศจึงมีความสำคัญยิ่งสำหรับไทย ประเทศซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของภูมิภาค สามารถเชื่อมโยงกับทุกประเทศอาเซียนได้ จึงต้องเผชิญทั้งความเสี่ยงและโอกาสมากกว่าประเทศอื่นๆ หากดำเนินการหรือตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ไม่ดีพอ อาจนำประเทศสูญเสียโอกาสได้ หากมีการวางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม มีรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ในการนำพาประเทศสู่ความเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของประเทศไทย และหากไม่ฉกฉวยและมุ่งมั่นในบรรลุเป้าหมายแล้ว โอกาสก็จะผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง การยึดมั่นนิติรัฐ การกลับคืนสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมเป็นหลักประกันพื้นฐานสำหรับอนาคตของประเทศ สำหรับทิศทางของเศรษฐกิจโลก น่าจะเคลื่อนตัวสู่โครงสร้างที่มีกลุ่มบูรณาการทางเศรษฐกิจใน 3 ภูมิภาคมากขึ้นตามลำดับ ได้แก่ กลุ่มเขตการค้าเสรีทวีปอเมริกาอันมีสหรัฐอเมริกาและกลุ่มเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ […]
ม.รังสิต คงจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4.1-4.7 คาด เงินบาท จะอ่อนค่าแตะระดับ 33.50-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3 ส่วนของเงินบาท มีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกโจมตี
นักวิชาการมองเลื่อนการเลือกตั้งเพิ่มความขัดแย้งทางการเมือง บั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน
นักวิชาการ ม.รังสิตประเมินผลช้อปช่วยชาติ 19 วัน เงินสะพัดไม่ถึงหมื่นล้านบาท แนะออกมาตรการช่วยคนยากจน