กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – นักวิชาการ ม.รังสิตมอง 3 ปัจจัยเสี่ยง น้ำท่วม-สงครามการค้า-วิกฤติเศรษฐกิจตุรกี ฉุดเศรษฐกิจไตรมาส 3 โตต่ำกว่าร้อยละ 4
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินว่า ผลกระทบน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ สงครามการค้าจีน-สหรัฐ และวิกฤติเศรษฐกิจตุรกีต่อตลาดการเงินโลกอาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 3 ของไทยต่ำกว่าร้อยละ 4 แม้น้ำท่วมปีนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบริเวณศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศและเขตนิคมอุตสาหกรรม เช่น ปี 2554 แต่ผลกระทบของน้ำท่วมกระจายตัวในวงกว้างทั้งจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและบางส่วนของภาคใต้ กระทบต่อพื้นที่ภาคเกษตรกรรม ผลผลิตการเกษตรและการท่องเที่ยว ทำให้กำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประสบภัยชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ความเสียหายทางเศรษฐกิจในภาพรวมไม่น่าจะเกิน 0.3% ของจีดีพี
ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีนจะกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก จะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกไทยมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะสินค้าขั้นกลาง ประเทศต่างๆ อาจหันมาผลิตสินค้าขั้นกลางเองภายในประเทศมากขึ้น การลงทุนโดยตรงจากสหรัฐมาไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงกว่าร้อยละ 27 และมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจตุรกีนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้นและน่าจะยืดเยื้อ จะส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกและตลาดหุ้นไทยไปอีกระยะหนึ่งและนำไปสู่การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากเศรษฐกิจ Emerging Markets มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย