นครราชสีมา 6 ก.พ.-ว่าที่อธิการบดี มรภ.นครราชสีมา ชี้ผู้สมัคร ส.ส. เปลี่ยนชื่อเป็น “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” สะท้อนระบบความคิดของทั้งผู้เปลี่ยนชื่อเอง เชื่อได้กระแส ไม่มีคะแนน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย ว่าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เปลี่ยนชื่อเป็น “ทักษิณและยิ่งลักษณ์” ลงสู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือหลายจังหวัดว่า เป็นการสะท้อนความนิยมของนักการเมืองทั้งคู่ และสะท้อนระบบความคิดของทั้งผู้เปลี่ยนชื่อเอง และผู้ที่คิดจะเลือกเพราะชื่อ มองในเชิงวิชาการ สะท้อนให้เห็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ลึกไปกว่านั้น เหมือนเป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชนพอสมควร แต่เท่าที่ดู ผู้สมัคร ส.ส.เลือกเปลี่ยนในเขตเลือกตั้งอำเภอรอบนอก ซึ่งเค้าเชื่อว่า จะมีโอกาสได้รับความนิยมมากกว่าในเขตเมืองใหญ่ ถ้าผู้สมัคร ส.ส.ดังกล่าว ไม่มีคุณสมบัติ ประสบการณ์โดดเด่น แต่ได้รับเลือกตั้ง เพียงเพราะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ทักษิณ หรือ ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ และคิดว่า เราต้องทบทวนเรื่องคุณภาพชีวิต คุณภาพการศึกษา ภาพรวมเชื่อว่า การเปลี่ยนชื่อจะไม่ทำให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญจนได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต แต่อาจจะพอหวังได้บ้างเล็กน้อยกับคะแนนนิยมที่จะนำไปคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ สรุปแล้ว คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มองว่า เป้าหมายหลัก คือ ต้องการสร้างกระแสให้คนสนใจ ทั้งการได้สัมผัสเอง และสื่อนำไปต่อยอดขยายผล ไม่ให้คนลืม ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย สร้างการรับรู้ให้พรรคเพื่อชาติ แต่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงจนได้คะแนนเสียงขึ้นมา ตนมองว่า เป็นไปได้น้อยมาก
ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติ ส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 14 เขตการเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา โดยเปลี่ยนชื่อเป็นทักษิณ 3 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง เขตเลือกตั้งที่ 4 นายทักษิณ จันทรวิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 6 และนายทักษิณ เชื้อจันอัด เขตเลือกตั้งที่ 7 และเปลี่ยนเป็นยิ่งลักษณ์อีก 1 เขตเลือกตั้ง คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ เพชรรักษา เขตเลือกตั้งที่ 10
ผู้ประสานงานพรรคเพื่อชาติ จังหวัดนครราชสีมา ยอมรับว่า มีคนระดับแกนนำภายในพรรคสั่งให้มีการเปลี่ยนชื่อ แต่ไม่ใช่คำสั่งของพรรค ตนเป็นคนแรกที่ถูกขอให้เปลี่ยน แต่ตนมองว่า คล้ายนำชื่อผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมาล้อเลียน เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ปรึกษาแกนนำคนอื่น ก็เห็นตรงกันว่า ไม่สมควร ตนจึงไม่เปลี่ยนชื่อ ส่วนคนที่ยอมเปลี่ยน แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล.-สำนักข่าวไทย