ฝุ่นพิษต้องแก้ด่วน เร่งดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กทม. 6 พ.ย.- ปัญหาฝุ่นพิษต้องแก้ด่วน “ผู้กองมาร์ค” จี้ นายกฯ เร่งดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่ ครม.หวั่นไทยเสียเปรียบการค้าในเวทีโลกหากล่าช้า เผย กมธ. อากาศสอาด ดันร่างกฎหมายให้สำเร็จในปีนี้


ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช รองประธานคณะกรรมาธิการร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดฯ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เร่งผลักดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษและมลภาวะทางอากาศ พร้อมเร่งเครื่องให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2608 ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nation Framework Convention on Climate Change) เพราะกฎหมายอากาศสะอาดคือก้าวสำคัญสู่การจัดการปัญหาฝุ่นพิษในประเทศอย่างยั่งยืน โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้เร่งผลักดันร่างกฎหมายให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริง ประเทศไทยจำเป็นต้องมี พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควบคู่ไปด้วย เพื่อจัดการปัญหามลพิษให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า การควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม และการขนส่ง เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่เพียงช่วยลดภาวะโลกร้อน แต่ยังลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยแล้ง และไฟป่า โดยขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้รับการเสนอจากหลายฝ่าย ทั้งพรรคการเมืองรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังคงรอการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อนส่งต่อให้ที่ประชุม ครม.


“การแก้ปัญหาฝุ่นพิษและภาวะโลกร้อนต้องใช้ทั้งกฎหมายอากาศสะอาดและ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควบคู่กัน เพราะการควบคุมมลพิษอย่างรอบด้านจะช่วยลดทั้งความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ อุทกภัย วาตภัย และไฟป่า ซึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อน หาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ถูกเสนอเข้าสู่ ครม. ในเร็ววัน การแก้ปัญหาฝุ่นพิษและมลพิษจะไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มที่ เนื่องจากภาครัฐขาดแนวทางที่ครอบคลุมและชัดเจน” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ ยังระบุว่า การขับเคลื่อนกฎหมายนี้ไม่เพียงช่วยจัดการปัญหาฝุ่นพิษในประเทศ แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมสินค้าไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากประเทศไทยไม่ปรับตัวแต่เนิ่น ๆ อาจถูกกีดกันจากประเทศคู่ค้าและตลาดสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะสหภาพยุโรป ซึ่งเริ่มมีมาตรการภาษีคาร์บอนและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ทำให้สินค้าไทยอาจต้องเผชิญกับภาษีคาร์บอนหรือข้อจำกัดทางการค้าในอนาคต

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า การผลักดันกฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจสีเขียวในประเทศไทย เพราะหากเราเริ่มเร็ว จะสามารถปรับตัวเข้ากับมาตรฐานสากลได้ดีขึ้น พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมแข่งขันได้ในตลาดโลก.319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68