“ภูมิธรรม” ลั่นคดีตากใบ หมดอายุความแล้ว ทุกอย่างต้องจบ

กองทัพบก 24 ต.ค.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ลั่นเมื่อคดีตากใบหมดอายุความ 25 ต.ค.67 ทุกอย่างก็ต้องจบไปตามกฎหมาย ย้ำสมัย “พล.อ.สุรยุทธ์” เป็นนายกฯ สั่งยกเลิกคดีไปหมดแล้วก่อนเยียวยา ลั่นออก พ.ร.ก.ต่ออายุคดีตากใบ ทำไม่ได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวหลังตรวจเยี่ยมกองทัพบก ถึงความคืบหน้าคดีสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ กรณีที่คดีจะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.67) ว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกถึงเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพราะการมาตรวจเยี่ยมในวันนี้เป็นการพูดคุยในภาพรวมเท่านั้น


ทั้งนี้ เรื่องสถานการณ์ภาคใต้ มีมาโดยตลอด สิ่งที่ห่วงใยในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งคดีตากใบจะหมดอายุความนั้น ก็คงจะมีอะไรที่ต้องเพิ่มเติมมากขึ้น ทางกองทัพและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้เฝ้าดู เฝ้าระวัง โดยมองว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่เพิ่งเกิดในช่วงคดีตากใบใกล้หมดอายุความเท่านั้น แต่มีการก่อเหตุมาโดยตลอดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การก่อเหตุมีความถี่ขึ้นในช่วงใกล้คดีตากใบหมดอายุความนั้น นายภูมิธรรม ย้ำว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นถี่อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า มีข้อสังเกตเหตุการณ์ ถี่ขึ้นในช่วงวันสองวันที่คดีใกล้หมดอายุ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องไปถามว่า เพราะเหตุใดเหตุการณ์จึงเกิดถี่ขึ้นในตอนนี้


ทั้งนี้ เหตุการณ์ตากใบเกิดขึ้นในปี 2547 ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว และโซเชียลมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ตัดบางส่วนออก และเพิ่มบางส่วนเข้ามา จึงมองว่าต้องเอาเรื่องนี้มาดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งศาลตัดสินมาแล้ว 4 คดี เพราะฉะนั้นการมาพูดว่ารัฐบาลไม่เคยสนใจใยดีจึงไม่ใช่ และต้องไปดูเหตุการณ์ทั้งหมดของคดีตากใบว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

ทั้งนี้ อยากให้ไปดูผลการรายงานสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีคดีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกจับเป็นจำนวนมาก โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ยกเลิกคดีให้ทั้งหมด เพื่อหวังให้เหตุการณ์สงบและลดลง

แต่การแก้ไขปัญหาในขณะนั้นก็ทำให้เหตุการณ์ในภาพรวมลดลงไม่ได้ เพราะเป็นคนละเงื่อนไขกัน จึงต้องตัดประเด็นตากใบออกจากประเด็นที่มีการเคลื่อนไหว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของประชาชนที่มาชุมนุมกัน แต่เป็นเรื่องของหน่วยที่กำลังสร้างปัญหา


พร้อมย้ำว่า เรื่องตากใบไม่ใช่แค่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของรัฐ ซึ่งกำลังถูกคุกคาม จึงอยากให้สื่อช่วยดูตรงนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกระตุ้นจนรัฐบาลหรือรัฐไทยตกเป็นเหยื่อ เพราะเราเป็นผู้สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น และยินดีแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎระเบียบของกฎหมาย ซึ่งทำมาจนถึงคดีที่ 4 และได้ข้อสรุปว่า รัฐไม่ฟ้องทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้มีการเยียวยา

โดยรัฐได้เยียวยาไปแล้วประมาณ 600 กว่าล้านบาท และครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้ไปครอบครัวละ 7 ล้าน บาท แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการซื้อชีวิตคน เพียงแต่เป็นการสื่อว่ารัฐพยายามดูแล และเยียวยาตามที่กฎหมายมีอยู่ และอนุญาตให้เราทำ มาจนถึงวันนี้

อย่างเช่นนางอังคณา นีละไพจิตร ซึ่งเป็น สว. และนักสิทธิมนุษยชน ก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ แต่พูดเฉพาะเรื่องของคดี ดังนั้นจึงต้องไปดูรายละเอียดว่าคืออะไร แต่เมื่อศาลออกหมายจับ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งลงพื้นที่ เพื่อไปตามหาผู้ถูกหมายจับในสถานที่ต่างๆ จะเห็นได้ว่าเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และสุดความสามารถ

โดยนายกฯ ได้สั่งการตน และนายกฯยังได้เน้นย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้รัฐทำหน้าที่ตามบทบาทของตนเองอย่างครบถ้วน แต่ต้องเข้าใจความเป็นจริงว่าต้องจับให้ได้

ส่วนกรณีมีการเสนอ ให้ออก พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง และไม่เข้าใจกฎหมาย เพราะหลักของกฎหมายนั้นที่จะให้ออกกฤษฎีกามีเรื่องภัยฉุกเฉิน ภัยฉุกเฉินทันที ซึ่งปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำยังมีเงื่อนไขอยู่

ส่วนเรื่องคดีตากใบ ถือว่าไม่เข้าเงื่อนไข แล้วจะทำได้อย่างไร ซึ่งได้ปรึกษากับทางฝ่ายกฎหมายแล้ว และทางฝ่ายกฎหมายแจ้งว่าทำไม่ได้ อีกทั้งกฎหมายออกเพื่อเป็นคุณไม่ได้ออกเพื่อเป็นโทษ หากฝืนทำไปจะเสียหลักความเป็นนิติธรรม และจะมีปัญหาตามมา จึงต้องไปดูว่าจะหาทางออกอื่นได้หรือไม่แต่ในเรื่องของกฤษฎีกา ทำไม่ได้อย่างแน่นอน

ส่วนที่มองว่า พลเอกพิศาล วัฒนวงศ์คีรี ได้ถูกย้ายจากแม่ทัพภาคที่ 4 ถือเป็นการลงโทษแล้วหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา ในขณะนั้น จึงต้องไปดูว่าผู้บังคับบัญชาตัดสินใจในเวลานั้น บนพื้นฐานอะไร และมีสภาพแวดล้อมแบบไหน

ส่วนที่ว่าเมื่อผ่านวันที่ 25 ตุลาคม 2561 คดีหมดอายุความกระบวนการทุกอย่างจะสิ้นสุดไปด้วยเลยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า

“ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เราเป็นนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายว่าอย่างไรก็ตามนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราดีใจติดปีก เพราะเราก็พยายามทำตามหน้าที่อยู่แล้ว เหมือนกับคดีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน หากจบแบบไหนก็จบแบบนั้น” นายภูมิธรรม กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย