นายกฯ เสียใจคดีตากใบ​ ออก​ ​”พ.ร.ก.ขยายอายุความ” ไม่ได้​

ทำเนียบ 24 ต.ค.-นายกฯ เสียใจคดีตากใบ​ แจง​ออก​ ​”พ.ร.ก.ขยายอายุความ” ไม่ได้​ ไม่เข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ ขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบในนามของรัฐบาล ไม่กังวลเหตุเกิด​ยุค​ “ทักษิณ” 20 ปีก่อนเยียวยาเต็มที่แล้ว​ ยัน​ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด​ บอกเหลือ 1 วัน ไม่หวังปาฏิหาริย์​ ขออยู่กับ​ความจริง​ เชื่อไม่กระทบเจรจาสันติสุขใต้ ลั่นพร้อมลงใต้พูดคุย-ดูแลประชาชน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดี สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า คดีดังกล่าวเกิดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งตนที่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวและขอโทษในนามของรัฐบาล จากนี้จะพยายามทำงานให้ดีไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลนายทักษิณชินวัตร รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษและได้ชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดในกระบวนการต่างๆ รวมถึงได้หารือกับคณะที่ปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง ทำได้หรือไม่และทำอะไรบ้าง โดยได้ส่งไปสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงขั้นตอนทางกฎหมายว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการออก พ.ร.ก.เพื่อขยายอายุความ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับมาว่า ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกพ.ร.ก. ตามมาตรา 172 และ 174 ที่จะขยายอายุความ เฉพาะคดี หรือตรากฎหมายขึ้นเพื่อเป็นการบังคับใช้โดยไม่ได้มุ่งขยายอายุความในคดีลักษณะเดียวกันเป็นการทั่วไปจึงไม่สอดคล้องกับมาตรา 26วรรคสอง และยังอาจเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมกับบุคคล จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ออกพ.ร.ก.ตามรัฐธรรมนูญและหลักกฏหมายอาญาสากล

“ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงดังกล่าว และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดความสงบสุข ไม่อยากให้ทุกฝ่ายขัดแย้งซึ่งกันและกัน และอย่าโยงคดีรุนแรงกับการเมือง“ นายกรัฐมนตรี ระบุ


ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเตรียมรับมือหลังจากคดีหมดอายุความอย่างไร เนื่องจากเวลานี้เริ่มมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้นต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะที่หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจทำงานเต็มที่ในการติดตามตัวบุคคลและเรื่องที่เกี่ยวกับคดี ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี ทางตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง รายงานว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจึงไม่อยากให้โยงเห็นความรุนแรงกับเรื่องการเมือง

เมื่อถามว่าต้องคุมเข้มเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ความปลอดภัยของทุกคนในประเทศมีความสำคัญทุกฝ่ายดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เมื่อถามย้ำว่าหากคดีหมดอายุความไปแล้วอาจทำให้ความไว้วางใจต่อรัฐบาลหมดไปนายกฯจะสื่อสารเรื่องนี้กับประชาชนอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอย้ำว่ารู้สึกเสียใจและเชื่อว่า นายกฯที่ผ่านมา ทุกคนก็เสียใจเช่นเดียวกันเพราะเป็นคนไทยเหมือนกันและได้เยียวยาทุกอย่างเพื่อแสดงความรับผิดชอบในส่วนที่ทำได้ และเมื่อตนเป็นนายกฯก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก และขอให้ทุกคนช่วยกันเพราะไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะจะเกิดความสามัคคีได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และรัฐบาลจะทำเต็มที่ขอให้ประชาชนไว้ใจ ทำให้ประชาชนสบายใจและบ้านเมืองสงบสุข

ส่วนคดีเกิดดังกล่าวเกิดสมัยนายทักษิณ เป็นนายกฯ ในฐานะลูกสาวที่มาเป็นนายกฯ กังวลในเรื่องนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาได้รับผิดชอบแล้วและพูดคุยกับหลายฝ่ายจนมาถึงสมัยนี้จนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย อย่างสุดความสามารถ ถ้าตรงไหนมีประเด็นอะไรก็ดูแลเป็นรายพื้นที่ไปและเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นเรื่องประเทศชาติ ในการดูแลทุกคนไม่ว่าจะหัวข้ออะไรก็ต้องดูแลในทุกเรื่อง


เมื่อถามว่าจะมีวิธีการอะไรที่ลดความรู้สึกของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ไม่อยากให้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไปโยงกับประเด็นการเมืองคดีตากใบเชื่อว่าทุกคนพยายามอย่าสุดความสามารถที่จะดูแลปัญหาและจิตใจประชาชนและไม่อยากให้เรื่องอื่นหรือคดีอื่นมาเป็นตัวเสริมว่าจะทำให้เกิดความรุนแรง

เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจพิจารณาในการไปฟ้องศาลโลกเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมรัฐบาลมีความเห็นอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คดี 20 ปีที่ผ่านมาจนมาถึงครั้งนี้ฟ้องร้องขึ้นมาอีกก็หลายประเด็นและหลายองค์ประกอบเกิดขึ้นคิดว่าศาลได้พิจารณาตัดสินไปก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อถามว่ากรรมาธิการในสภามีความเห็นว่าหลังคดีหมดอายุความรัฐบาลอาจต้องเยียวยาผู้เสียหายในคดีนี้เพิ่ม นายกฯ กล่าวว่า ต้องพิจารณาเพราะต้องดูว่าเรื่อง 20 ปีที่แล้วจบแบบใดและมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบบาดเจ็บและเสียชีวิตไปแล้วและยังมีอะไรที่สามารถพูดคุยเพิ่มเติมได้ แล้วถ้ามีโอกาสก็จะลงไปในพื้นที่ภาคใต้รวมถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทยโดยต้องดูเวลาที่เหมาะสมและสถานที่จะไปที่ใดก่อนหลัง

เมื่อถามย้ำว่าคดีนี้จะส่งผลต่อการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่และคณะพูดคุยสันติสุขก็คงทำงานให้เกิดความสงบสุขต่อไป

เมื่อถามว่าตำรวจได้รายงานความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีอย่างไรบ้างนายกกล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้าโดยระบุว่าทำอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงมาตรการที่จะมีต่อ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส. พรรคเพื่อไทย หากเดินทางกลับมาประเทศไทยหลังคดีหมดอายุความ ได้วางแผนเรื่องนี้ไว้อย่างไรเพื่อลดอุณหภูมิ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องพูดคุยกัน อย่างที่เห็นว่าขณะนี้ พล.อ.พิศาล ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว และ เท่าที่สอบถามยังไม่มีใครได้พูดคุยกับ พล.อ.พิศาลเลย เดี๋ยวรอดูว่าจะยังไง แต่แน่นอนว่าประเด็นที่สำคัญ มันไม่อยากให้เกิดเรื่องอยู่แล้ว เพราฉะนั้นอะไรที่สามารถเจรจาพูดคุยได้ก็ต้องทำอยู่เเล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาว่ากัน ต้องมีการไปข้างหน้าอยู่แล้ว หรือพยายามทำให้ย่อปัญหาลง

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับคณะที่ปรึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของคดีตากใบได้ปรึกษาและถามตลอดด้วยว่า ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วทำไมเหตุการณ์จบไปแล้วกลับมาอีกวันนี้ ก็คุยทั้งหมด เพราะอยากได้ความคิดเห็นจากหลายๆฝ่าย และคนหลายช่วงอายุด้วย

เมื่อถามว่าเหลือเวลาอีกแค่ 1 วัน ที่คดีตากใบจะหมดอายุความ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เคยระบุว่า ต้องรอปาฏิหาริย์ถึงจะนำตัวผู้ต้องหาคดีตากใบกลับมาดำเนินคดีได้ ในฐานะรัฐบาลคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์นั้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราทำทุกอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ซึ่งจังหวะนี้นายกรัฐมนตรี ได้พูดย้ำคำว่า “ปาฏิหาริย์หรอ” ก่อนจะหัวเราะในลำคอและกล่าวว่า ต้องใช้เรื่องจริงค่ะ ก่อนจะกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย