รัฐบาลเตรียมร่างคำสั่งสำนักนายกฯ ถึงการวางตัวของข้าราชการช่วงเลือกตั้ง

ทำเนียบ 31 ม.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลเตรียมร่างคำสั่งสำนักนายกฯ ถึงการวางตัวของข้าราชการช่วงเลือกตั้ง ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” เตรียมยุติโพสต์โซเซียลส่วนตัวชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง หากตอบรับเป็นผู้ถูกเสนอชื่อนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมวางตัวอย่างเหมาะสม ระวังการลงพื้นที่ 


ภายหลังการหารือระหว่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้เกี่ยวข้อง ในประเด็นการวางตัวของข้าราชการในช่วงการเลือกตั้ง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า รัฐบาลเตรียมยกร่างคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ถึงระเบียบปฏิบัติของข้าราชการในช่วงการเลือกตั้ง  โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติของข้าราชการ ในการวางตัวเป็นกลาง รวมถึงให้มีการสนับสนุนการทำหน้าที่ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ  


ส่วนการปฏิบัติตัวต่างๆ ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หากตอบรับอยู่ในบัญชีของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า  การทำงานบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่และการลงพื้นที่ตรวจราชการยังคงสามารถทำได้ตามปกติ  เพียงแต่ต้องระมัดระวังในเรื่องความสุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่น การให้ข้อมูล การให้สัมภาษณ์ การพบปะประชาชน ที่อาจจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับพรรคการเมืองอื่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 78 และ 79  ได้ เช่น การรับเรื่องร้องเรียนของประชาชน รวมถึงจะต้องไม่พูดหรือกล่าวให้ร้ายและกระทบพรรคการเมืองอื่น แต่การอนุมัติโยกย้ายข้าราชการยังสามารถทำได้ตามปกติ 


ขณะที่สมาชิกของพรรคการเมืองที่พลเอกแระยุทธ์ตอบรับ สามารถนำรูปของพลเอกประยุทธ์ ไปใช้ควบคู่กับผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ แต่พลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถขึ้นเวทีปราศรัยใดๆ ได้ อีกทั้งการที่พลเอกประยุทธ์ จะพูดคุยกับพรรคการเมืองที่ตัวเองตอบรับ สามารถทำได้ในนอกเวลาราชการ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นเรื่องปกติที่จะพูดคุยกับคนอื่น และไม่มีความจำเป็นที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเข้าร่วมการประชุมพรรค เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พร้อมกันนี้ พรรคพลังประชารัฐ ต้องมีความระมัดระวังในการที่จะกล่าวถึงพลเอกประยุทธ์ 

ส่วนการจัดรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทุกคืนวันศุกร์ ยังคงทำได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นการสื่อสารกับประชาชนถึงเรื่องนโยบายและการทำงานของรัฐบาล แต่การใช้สื่อโซเชียลมีเดียส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ จะแจ้งไปยัง กกต. ว่าจะระงับเป็นการชั่วคราว โดยจะไม่มีการโพสต์รูปหรือข้อความใดๆ จนถึงการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติและป้องกันความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง