ชุมพร 30 ม.ค.-ตำรวจชุมพรจับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 37 คน ค่าหัวคนละ 25,000 บาท เดินลัดเลาะป่ามาจากเกาะสอง 5 วัน จนมาถึงแคมป์พักกลางป่า รอนายหน้ามารับพาไปส่งต่อที่ชายแดนด้าน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเข้าไปทำงานในมาเลเซีย
เวลา 20.00 น. เมื่อคืนวานนี้ (29 ม.ค.) นายวิโรจน์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอท่าแซะ สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.สังคม รองมาลี หน.ชป.1 มทบ.44 และตำรวจ สภ.ท่าแซะ ควบคุมต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 37 คน แยกเป็นชาย 33 คน หญิง 4 คน อายุระหว่า 16-25 ปี ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย นำมาสอบสวนคัดกรองที่ สภ.ท่าแซะ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบชาวต่างด้าวทั้งหมดถูกแก๊งค้ามนุษย์พามาหลบซ่อนอยู่ในแคมป์พักที่มุงด้วยผ้าใบอยู่กลางป่า หลังโรงงานร้าง ใกล้กับถนนเพชรเกษม หมู่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงสนธินำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมไว้ได้ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาคัดกรองแยกเป็นรายบุคคล และสอบสวนนานหลายชั่วโมง จนทราบว่าต่างด้าวทั้งหมดมีทั้งที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันและต่างหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าแก๊งค้ามนุษย์ที่เป็นชาวเมียนมาและคนไทย เป็นผู้จัดหา ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายหัวละ 25,000 บาท จากนั้นนายหน้าจะลักลอบพาโดยสารมากับเรือประมงหางยาวตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาถึงแคมป์พักบริเวณชายแดนฝั่งประเทศเมียนมา ใกล้กับแม่น้ำกระบุรี ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นช่วงกลางคืนนายหน้าจะนำชาวต่างด้าวชุดแรกจำนวน 37 คน นั่งเรือหางยาวข้ามแม่น้ำกระบุรีเข้ามายังฝั่งไทย และยังเหลือรออยู่อีก 1 ชุด จำนวนกว่า 20 คน รอข้ามตามมาภายหลัง
เมื่อข้ามมาแล้วจะมีนายหน้าคนไทยขับรถกระบะเข้าไปรับที่ริมแม่น้ำกระบุรี แล้วขับหลบเลี่ยงมาตามถนนในหมู่บ้าน สลับกับให้เดินลัดเลาะไปตามป่าเขาเป็นช่วงๆ ในเวลากลางคืน เพื่อหลบด่านตรวจของตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง โดยใช้เวลาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลและป่าเขา หยุดพักเหนื่อยเป็นระยะๆ รวมเวลาทั้งหมด 5 วัน 5 คืน จนมาถึงแคมป์พักกลางป่า หลังโรงงานร้างใกล้กับถนนเพชรเกษม เพื่อรอนายหน้าขับรถยนต์มารับพาไปส่งต่อที่ชายแดนด้าน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย แต่มีชาวบ้านมาพบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมจับกุมดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย