นนทบุรี 10 ม.ค. – พาณิชย์เชื่อค่ารักษาพยาบาลถูกลง คนไทย-ต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ระบุภายใน 1-2 เดือน หลังประชุมร่วมน่าจะมีความชัดเจนออกมา
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ครั้งที่ 1 ของปี 2562 ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเมื่อวานที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มบัญชีรายการสินค้าและบริการควบคุมอีก 1 รายการ คือ เวชภัณฑ์ จากเดิมที่มีเพียงยารักษาโรคเป็นสินค้าควบคุม ส่วนบริการควบคุมเพิ่มอีก 1 รายการ ได้แก่ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาลเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุมด้วยนั้น ซึ่งขั้นตอนต่อไปกระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมกราคมนี้ เมื่อ ครม.เห็นชอบจะประกาศใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางด้านปฏิบัติของการควบคุมราคายา เวชภัณฑ์ และการคิดค่าบริการด้านรักษาพยาบาลต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจน ที่ประชุมจึงได้ตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรการดูแล โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ สมาคมประกัยภัย มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้ได้ข้อมูลจากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียนำมากำหนดเป็นมาตรการให้ครอบคลุมและเป็นธรรมทุกฝ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบและประกาศใช้แล้ว คณะอนุกรรมการชุดนี้จะประชุมเพื่อวางกรอบแนวทางทันที โดยแต่ละหน่วยงานที่มีข้อมูลและดูแลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยา เวชภัณท์และค่าบริการรักษาพยาบาลต่าง ๆ มีต้นทุนแต่ละแห่งเป็นอย่างไร มีการคิดแตกต่างมากน้อยแค่ไหน หากจะปรับราคาทั้งยาและเวชภัณท์ให้อยู่ใกล้เคียงกันพอจะรับกันได้หรือไม่อย่างไร เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดเรื่องยาประเทศไทยนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ราคาไม่น่าจะแตกต่างกันมาก และที่สำคัญจะนำฐานข้อมูลยาและเวชภัณท์จากโรงพยาบาลของภาครัฐมาคิดคำนวณต้นทุนต่าง ๆ ด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกันและเป็นธรรมมากที่สุด
นอกจากนี้ คาดว่าในการประชุมของคณะอนุกรรมการดังกล่าวจะสามารถสรุปแนวทางเบื้องต้นภายใน 1-2 เดือนนี้ และเชื่อว่าการปรับการคิดค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศครั้งนี้จะเป็นประโยนช์ต่อระบบการรักษาพยาบาลของไทยอย่างมาก เพราะคนไทยและต่างชาติจะเข้าถึงการรักษาพยาบาลมากขึ้นด้วยราคาไม่แพงจนเกินไป และยังจะทำให้คนไทยหันมาทำประกันอุบัติเหตุและประกันชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อค่ารักษาพยาบาลถูกลงจะทำให้เบี้ยประกันถูกลงตาม โดยคนไทยและชาวต่างชาติจะได้เข้ามารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลของเอกชนมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย