กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.- “สุขุม” ชี้เลือกตั้งไม่มีอนาคต เพราะรู้ตัวนายกฯล่วงหน้า ขอให้ประชาชนเลือกระหว่างอยู่กับปัจจุบันหรือเลือกอนาคต “สดศรี” ห่วง กกต.เป็นตำบลกระสุนตก โดนถล่ม หากไม่กล้า ความเสื่อมจะตามมา จี้จัดเลือกตั้งให้ยุติธรรม รองเลขาฯ กกต.ระบุเป็นอำนาจ กกต.ในการอนุญาตองค์กรระหว่างประเทศมาสังเกตการณ์เลือกตั้ง
ที่โรงแรมเซ็นทรา ในการเสวนา “การเลือกตั้งคุณภาพกับอนาคตประเทศไทยภายหลังการเลือกตั้ง” นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนตั้งความหวังกับ กกต.ไว้มาก เพราะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กกต.ทั้ง 7 คน จึงต้องแข็งขัน ไม่ใช่เป็น กกต.แล้ว แต่ คสช.จะเรียกประชุม ถ้า กกต.ยอมให้คนอื่นเข้ามายุ่งใบประกันคุณภาพก็ไม่มีเหลือ
นายสุขุม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เลือกผู้แทนฯ ส่วนนายกฯ ไม่ต้องห่วงจัดไว้ให้แล้ว ถ้าพลังประชารัฐไม่ชนะ ไม่ได้มาเป็นที่ 1 นายกฯ ก็ยังต้องพึ่งพิงอำนาจอำมาตยาธิปไตย อย่าลืมพรรคที่มีอยู่แล้ว 250 เสียง เขาต้องการอีกแค่ 176 เสียง ซึ่งได้แน่ ผมไม่คิดว่าพลังประชารัฐจะชนะ แต่เขามีเกิน 176 แน่นอน นายกฯ จึงยังปลอดภัยในแง่บริหาร โดยไม่ต้องพึ่งพิงนักการเมือง และทันทีที่รวมพรรค รวมคะแนนได้เป็นนายกฯ ก็จะมีคนยกป้ายให้เพิ่มอีก จากพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคทางหนีไฟ นั่นเป็นเพราะพรรคการเมืองมีอุดมการณ์เพื่อเป็นฝ่ายรัฐบาล
“ผมยังมองว่า นายกฯ ยังมีโอกาสร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่น้ำครึ่งแก้ว ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ถ้าตัดสินใจแบบอยู่กับปัจจุบันก็เลือกผู้แทนฯ แต่ถ้าคิดว่าการเลือกตั้งชี้อนาคตก็เลือกระหว่างจะให้สืบทอดอำนาจหรือไม่ให้สืบทอดอำนาจ” นายสุขุม กล่าว
นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือที่ออกไปในทาง 3 แพร่ง ๆ แรกเป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย แพร่งที่ 2 การเลือกตั้งที่นำไปสู่เขาวงกต เป็นหน้ากากประชาธิปไตยของผู้นำอำนาจนิยม และแพร่งที่ 3 การเลือกตั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการเมืองรอบใหม่ ซึ่งจะออกมาในรูปแบบใดขึ้นอยู่กับประชาชนและ กกต.
นางสิริพรรณ กล่าวว่า กติกาการเลือกตั้งที่ถูกสร้างขึ้นจะต้องมีคุณภาพ รวมถึงการสร้างเสถียรภาพให้พรรคการเมือง ไม่ใช่ทำให้พรรคแข็งแรงพรรคเดียว แต่ต้องทำให้พรรคมีระบบที่เป็นคุณภาพ ไม่ถูกควบคุมโดยฝ่ายบริหาร ข้อกังวลคือหากประชาชนเลือกไปแล้ว เขาก็หวังให้พรรคที่มีเสียงข้างมากจะเป็นรัฐบาล แต่ชนชั้นนำทางการเมืองอาจต่อรองให้ผลการจัดตั้งรัฐบาลให้ออกมาเป็นอีกอย่าง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะลดทอนความต้องการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมือง ไม่เหลือสถาบันทางการเมืองใดเลยที่ประชาชนหวงแหนศรัทธา และอาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองรอบใหม่
“ทุกวันนี้รู้สึกสงสาร กกต. ถูกตั้งคำถามตลอดเวลาว่าจะโกงมั้ย บัตรเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร โครงสร้างการเลือกตั้งที่ออกมา เป็นระบบจัดสรรผสม ซึ่งเยอรมันเคยใช้ในปี 1949 หลังสงครามโลก และหยุดใช้ในปี 1953 อาจเป็นเพราะนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อาจอยากกลับไปเป็นออเจ้า ระบบนี้ไม่ส่งเสริมการแข่งขันของพรรคการเมือง ทำให้พรรคอ่อนแอ ตอบโจทย์คนที่ไม่ศรัทธา” นางสิริพรรณ กล่าว
นางสิริพรรณ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นเมื่อมองไปที่ตัวผู้เล่นทางการเมือง จะเห็นผู้แสดงกลุ่มหนึ่งอยู่นอกกติกา โดย คสช.เป็นผู้ออกแบบกติกา เลือกผู้ร่างกติกา และเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนกติกาได้ระหว่างเกม จึงเป็นผู้เล่นที่ได้เปรียบคนอื่น รวมทั้งยังมีสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีที่มาจากนอกกติกาเป็นตัวช่วย ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกฯ คนต่อไป ก็ควรเลิกรายการนายกฯพบประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเกินไป จนถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรม และไม่ควรให้การเลือกตั้งอยู่ในบริบททางการเมืองที่อยู่ภายใต้ ม. 44 และทหารกับหน่วยความมั่นคง เชื่อว่าประชาชนคาดหวังรัฐบาลผสมที่มีคุณภาพและเสถียรภาพ และหวังให้นำนโยบายพรรคการเมืองมาใช้เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ
นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการ กตต. กล่าวว่าการปฏิวัติของ คมช. มีบทบาทควบคุม กกต.มากกว่า คสช. แม้ที่ผ่านมาจะมี มาตรา 44 แต่ก็เชื่อว่าคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่เราขอร้องเขามากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่แก้ปัญหาลำบาก ขอให้ กกต.พูดกับนายกฯ ตรง ๆ ว่าขอบคุณที่ช่วยใช้ ม.44 แต่หลังจากนี้กกต.เดินต่อเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ ม. 44 มาช่วยแล้ว
นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนประเด็นบัตรเลือกตั้งแบบโหล ที่หลุดออกมา เนื่องจาก กกต.จะทำบัตรยากมาก การพิมพ์บัตร 350 แบบมีโอกาสพลาด ถ้าพลาด กกต.ทั้ง 7 คน ต้องโดนก่อน ในการเลือกตั้ง กกต.ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องยาก กกต.เป็นองค์กรที่ต้องชี้ขาดว่าอะไรทำได้-ทำไม่ได้ ซึ่งครั้งนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียง กกต.ทั้ง 7 คน แต่กลับได้ยินแต่เสียงเลขาธิการ กตต. และรองเลขาธิการ กกต.
“กกต.กลายเป็นตำบลกระสุนตก บางครั้งอาจได้รับคำสั่งอะไรมา แต่ต้องใช้ดุลพินิจว่าคำสั่งใดจะทำให้ติดคุกหรือไม่ ถ้าติดคุกก็อย่าทำ ความกล้าเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อไม่กล้าความเสื่อมจะตามมา การทำงานครั้งนี้ กกต.ต้องแสดงฝีมือ อย่าให้เสียเปล่า ต้องชี้ขาดในสิ่งที่ถูกต้อง การเฉยไม่ทำให้สถานภาพของ กกต.ดีขึ้น อาจถูกมองว่าอ่อนแอ ไม่เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี ยังกล่าวถึงประเด็นป้ายหาเสียงที่ห้ามขึ้นภาพบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่า เป็นเรื่องที่กกต.หวังดีไม่อยากให้พรรคการเมืองถูกตีความกฎหมาย กรณีนายชวน หลีกภัย ยังเป็นสมาชิกพรรค การติดภาพสามารถทำได้เพราะไม่ใช่การชี้นำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การนำภาพที่ถ่ายคู่กับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมือง กกต.อาจตีความว่าเป็นการครอบงำพรรคหรือผู้สมัคร ซึ่งเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคทันที
นางสดศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาการอธิบายของ กกต.ไม่ได้พูดให้ชัดว่าทำไมจึงใช้รูปนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติพัฒนา จะใช้ภาพนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถือเป็นปูชนียบุคคล สามารถนำมาใช้ได้ เปรียบเทียบคล้ายกับการนำภาพพระเกจิ เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่มั่น มาติดในป้าย
ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการสังเกตการณ์เลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศ ว่าที่ผ่านมา กกต.อนุญาตให้เข้ามา ไม่มีปัญหาและคิดว่าถ้าเข้ามาก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน และเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการเสวนาเปิดให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้แสดงความคิดเห็น นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ เพราะในบางเขตเลือกตั้ง อาจมีผู้สมัครแค่ 5-6 คน ขณะที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า มั่นใจว่าประชาชนกาถูกเบอร์ จึงไม่เห็นด้วยกับประเด็นพรรคเดียวเบอร์เดียว ส่วนข้อกังวลนั้นอยากให้กรรมการใช้กติกาอย่างเข้มข้น การเลือกตั้งจะบริสุทธิ์และยุติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้เล่น แต่เป็น กกต.ที่ต้องใช้งบมหาศาลในการจัดการเลือกตั้ง อีกทั้งเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ โดยตอนนี้ กกต.มีเขี้ยวเล็บแล้ว แต่ถ้ามีการเกรงใจกันการเลือกตั้งจะไม่สนุก อยากให้ กกต.เป็นวีรบุรุษ สร้างประชาธิปไตยของประเทศ.- สำนักข่าวไทย