วอชิงตัน 27 พ.ย.- สื่ออเมริกันอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐทั้งอดีตและปัจจุบันว่า บุตรเขยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ผลักดันให้ทำข้อตกลงจำหน่ายอาวุธให้แก่ซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 10 เท่าตัว จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีลังเลที่จะแข็งกร้าวกับซาอุดีอาระเบียเรื่องสังหารนักข่าวในตุรกี
เว็บไซต์เอบีซีนิวส์อ้างเจ้าหน้าที่ปัจจุบันสองคนและอดีตเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวสามคนว่า นายจาเรด คุชเนอร์ผลักดันให้กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมเพิ่มตัวเลขข้อตกลงจำหน่ายอาวุธให้แก่ซาอุดีอาระเบีย เดิมเจ้าหน้าที่ประมาณไว้ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 495,725 ล้านบาท) ตามที่ซาอุดีอาระเบียสนใจระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดและการซ่อมบำรุงระบบอื่น ๆ แต่นายคุชเนอร์ผลักดันให้เพิ่มเป็น 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.63 ล้านล้านบาท) โดยกล่าวในการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ หลายสัปดาห์ก่อนประธานาธิบดีไปประชุมสุดยอดที่ซาอุดีอาระเบียครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อนว่า จะต้องขายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วข้อตกลงเป็นหมันเพราะซาอุดีอาระเบียไม่ตกลงเรื่องระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดภายในกำหนดเส้นตายเดือนกันยายน เจ้าหน้าที่สหรัฐพยายามอย่างหนักจนกระทั่งซาอุดีอาระเบียยอมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงซื้ออาวุธในการประชุมสุดยอด แต่เป็นการลงนามระหว่างเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียกับ พล.อ.เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ หลังจากนั้นซาอุดีอาระเบียลงนามในหนังสือคำเสนอและคำสนองซื้ออาวุธและการฝึกอบรมจากสหรัฐมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 478,822 ล้านบาท) ไม่ใช่ 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.63 ล้านล้านบาท) ตามที่ตกลงไว้
เอบีซีนิวส์ระบุว่า หนังสือแสดงเจตจำนงซื้ออาวุธจำนวน 5 หน้า มีเนื้อหากำกวม ไม่มีรายละเอียดเรื่องจำนวนและประเภทของอาวุธที่จะซื้อ ไม่ระบุวันส่งมอบที่ชัดเจน ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ซาอุดีอาระเบียลงทุนมากมายในสหรัฐ เป็นตัวเงินมากเป็นประวัติการณ์ที่จะสร้างงานจำนวนมาก ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจมหาศาล และทำให้สหรัฐมั่งคั่งยิ่งขึ้นไปอีก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันบรุกกิงส์ให้ความเห็นหลังดูสำเนาหนังสือนี้ว่า สมัครเล่นมาก ๆ ไม่ใช่สัญญาที่มีผลผูกพัน ไม่ต่างจากการจดลงกระดาษเช็ดปากบนโต๊ะอาหาร.- สำนักข่าวไทย