จับ2สาวไทยรับจ้างปลอมบัตรเอทีเอ็มส่งเงินให้แก๊งสกิมเมอร์ชาวจีนเสียหาย23ล้านบาท

กรุงเทพฯ 26 พ.ย.- ตม.จับแก๊งสกิมเมอร์และปลอมบัตรอิเล็กทรอนิดส์ โดยมี 2 สาวไทยรับจ้างหาบัตรเอทีเอ็มรูดเงินส่งต่อให้ชาวจีน มูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาท


พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลจับกุมนางสาวสุรางคนา บุญเรียบ อายุ 36 ปี /นางสาวรัชนีวรรณ โถนะวัลย์ อายุ 41 ปี สมาชิกแก๊งสกิมเมอร์และนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมารูดกับเครื่องอนุมัติเงินอัตโนมัติ  โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก ย่านรัชดาภิเษก จากนั้นขยายผลจับชายชาวจีน 2 คน นายซุนเด็ง Mr.SUN ZHIDENG อายุ 32 ปี /นายยูเป็ง MR.YU PENG อายุ 36 ปี จับได้ที่คอนโด ซอยอินทามระ 47 รวมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 50 เล่ม , เครื่องอนุมัติเงินอัตโนมัติ (เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์) 15 เครื่อง , คอมพิวเตอร์ , เครื่องบันทึกข้อมูลลงในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม กว่า 100 ใบ มูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาท

สำหรับพฤติการณ์ นางสาวสุรางคนา และนางสาวรัชนีวรรณ ทำหน้าที่จัดหาเครื่องอนุมัติเงินสดอัตโนมัติ EDC จำนวน 125 ใบ พร้อมบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็มที่ผูกกับเครื่อง แล้วส่งต่อให้กับชายชาวจีนเพื่อใช้รูดเงิน จากนั้นชาวจีนจะส่งสลิปยอดรูดเงินกลับมาที่หญิงไทยเพื่อนำรหัสไปกดเงินสดมาให้กับชาวจีนอีกครั้ง โดยทั้งสองสาวไทยจะได้ส่วนแบ่งร้อยละ 1 ของยอดเงินสดที่กดมา


จากการตรวจสอบพบแก๊งสกิมเมอร์ทำเป็นขบวนการตั้งแต่ปี 2557 มีการรูดเงินไปมูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาท โดย 2 ชาวจีนเดินทางเข้ามาในไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและแอบแฝงมากระทำผิด 

สอบสวนรับสารภาพเป็นคนจัดหาข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหายชาวจีนมาบัตรทึกลงบัตรปลอม โดยจ้างคนไทยจัดหาเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ EMC เมื่อได้เงินแล้วนำมาแบ่งกัน แล้วนำเงินที่ได้ส่งกลับประเทศจีนผ่านร้านรับแลกเงินแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง โดยตำรวจเตรียมขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการต่อไป

พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า แก๊งสกิมเมอร์ดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับผู้เสียหายในประเทศจีนเป็นอย่างมาก มูลค่ากว่าพันล้านบาท ซึ่งความร่วมมือนี้รัฐบาลจีนพอใจมาก ย้ำทางตำรวจเข้มงวดปราบปรามอย่างจริงจังให้คนดีอยู่ได้คนไม่ดีต้องออกนอกประเทศ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง