ลพบุรี 6 พ.ย. – จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปวิดีโอผู้ป่วยโรคเอดส์ถูกนำไปทิ้งไว้บริเวณรั้วกำแพงวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง วันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่า ญาติได้นำส่งเอกสารประจำตัวผู้ป่วยให้ทางวัดช่วยดูแลต่อแล้ว ซึ่งทางวัดยืนยันยังรับผู้ป่วยทุกราย
ไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ เปิดเผยว่า หลังกลายเป็นข่าวดัง ญาติของผู้ป่วยรายดังกล่าวได้นำเอกสารประจำตัว รวมถึงประวัติการรักษา มามอบให้เจ้าหน้าที่แล้ววานนี้ (5 พ.ย.) เผยอาจเป็นความเข้าใจผิดที่คิดว่าทางวัดจะเรียกรับเงิน จึงไม่กล้านำผู้ป่วยเข้ามาฝากให้ช่วยดูแล โดยที่ผ่านมามีญาตินำผู้ป่วยเอดส์มาทิ้งตามจุดต่างๆ รอบวัดไม่น้อยกว่า 40 ราย บางรายถูกทิ้งข้างกำแพงวัด บางรายถูกทิ้งในป่า ทางวัดก็รับมาดูแลบริบาล ให้การพัฒนาการด้านอาหาร อารมณ์ และสังคม รวมทั้งส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาล บนพื้นฐานของความมีเมตตาและมนุษยธรรม โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย และรับผู้ป่วยทุกราย
วัดพระบาทน้ำพุ มีผู้ป่วยเอดส์อยู่ในความดูแล 153 ราย และมีผู้ป่วยนอกบัญชีอีก 7 ราย โดยอัตราการเสียชีวิตลดลงจากปี 2535-2545 ที่มีผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิตวันละ 18 ราย เนื่องจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ ประกอบกับการพัฒนายาต้านไวรัสเอดส์ ส่งผลให้ควบคุมอาการและการระบาดของโรคได้ ซึ่งบางรายร่างกายแข็งแรงขึ้น ก็มาช่วยดูแลให้กำลังใจผู้ป่วยด้วยกัน และแม้ว่าวัดพระบาทน้ำพุ หรือโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 1 แห่งนี้จะสามารถรับผู้ป่วยได้ 160 ราย แต่ก็ยังสามารถรับผู้ป่วยได้อีก เนื่องจากมีโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 80 กิโลเมตร
การดูแลผู้ป่วยเอดส์ของวัดพระบาทน้ำพุ แต่ละวันมีค่าใช้จ่ายกว่า 130,000 บาท หรือตกเดือนละไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท โดยทุกบาททุกสตางค์ล้วนมาจากจิตเมตตาของประชาชน ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยเอดส์มีกำลังใจต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด. – สำนักข่าวไทย