fbpx

“หลวงพ่ออลงกต” เตรียมกลับวัดพระบาทน้ำพุพักฟื้นอาการบาดเจ็บ

ลพบุรี 3 ต.ค.- “หลวงพ่ออลงกต” เตรียมกลับวัดพระบาทน้ำพุพักฟื้นอาการบาดเจ็บอุบัติเหตุรถชนกันคืน 30 ก.ย. หลังแพทย์รักษาอาการดีขึ้นและอาจอนญาตให้กลับวัดได้ 5 ต.ค.นี้  ส่วนครอบครัว 2 ผู้เสียชีวิตได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ขณะที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรง สอบปากคำพยาน 5 ปาก


พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ยังนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หลังประสบอุบัติเหตุรถตู้ที่นั่งมาชนกับรถกระบะ ทะเบียน บก 7145 ลพบุรี เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา บนถนนพหลโยธิน กม.179-180 ม.3 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ทำให้คนในรถกระบะเสียชีวิต 2 ราย คือ นายสุนทร แสนอภัย อายุ 54 ปี คนขับ และ นางระอุ่น ปัญญา อายุ 44 ปี

ทั้งนี้ หลวงพ่ออลงกต ยังเป็นห่วงครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้สอบถามกับลูกศิษย์อยู่ตลอดที่เดินทางไปดูแลทั้งสองครอบครัว หลังจากได้มอบหมายให้ศิษยานุศิษย์เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ญาติของผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท รวมเป็น  200,000 บาท ที่ สภ.โคกสำโรง รวมทั้งคนขับรถตู้ได้เข้าขอขมาญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองรายแล้ว ซึ่งศพของนายสุนทร ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังขอนขว้าง จะมีพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.นี้ และศพนางระอุ่น จะฌาปนกิจในวันนี้ (3 ต.ค.) ที่วัดห้วยเจริญ


ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอาจจะอนุญาตให้หลวงพ่ออลงกตกลับไปพักฟื้นที่วัดได้ในวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.นี้ หลังจากหลวงพ่อแจ้งความประสงค์ขอกลับวัด เพราะเกรงใจญาติโยมที่มาใช้บริการโรงพยาบาล และจะได้สะดวกต่อศิษยานุศิษย์ที่มาคอยดูแล

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพล พงษานุวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง เจ้าของคดี กล่าววว่า ได้สอบปากคำพยานแล้ว 5 ปาก คือ คนขับรถ ลูกศิษย์ที่นั่งมาด้วย หลวงพ่ออลงกต และผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นคนขับให้การว่าทำความเร็วมาประมาณ 130 กม/ชั่วโมง เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวรถกระบะได้แล่นออกมาพอดี จึงเบรคไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมหลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย