อุทัยธานี 22 ต.ค.- ผอ.ชลประทานอุทัยธานีเผยฝนตกช่วยเติมอ่างเก็บน้ำหลัก “ทับเสลา-ห้วยขุนแก้ว” เร่งกักเก็บก่อนสิ้นสุดฤดู เตรียมไว้ใช้หน้าแล้งเพื่ออุปโภคบริโภค แนะเกษตรกรลดความเสี่ยง ชะลอทำนาปรัง ปลูกพืชน้ำน้อยแทน
นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งในพื้นที่ว่า ฝนที่ตกบ่อยในระยะนี้ แม้มีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ.ลานสัก และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต แต่เป็นฝนช่วงปลายฤดูแล้วที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนทิ้งช่วงพอสมควร ดังนั้น จึงต้องกักเก็บปริมาณน้ำช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค เพราะขณะนี้อ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 31.49 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 33.38 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 45.73 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้การได้ 17.68 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายฐกร กล่าวด้วยว่า ปริมาณน้ำดังกล่าวนอกจากเก็บไว้เพื่ออุปโภคบริโภคแล้ว ยังเป็นการรักษาความสมดุลโครงสร้างของอ่างเก็บน้ำ และรักษาระบบนิเวศน์ จึงยังไม่มีการระบายน้ำในพื้นที่การเกษตร พร้อมกันนี้ต้องขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอการทำนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิต โดยควรปลูกพืชทดแทนที่มีความเหมาะสมและใช้น้ำน้อย เช่น พืชตระกูลถั่วหรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์.-สำนักข่าวไทย